นิวซีแลนด์ล็อกดาวน์โอ๊กแลนด์อีกรอบ
เวลลิงตัน – เมื่อวันที่ 27 ก.พ. นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นแห่งนิวซีแลนด์ประกาศล็อกดาวน์เมืองโอ๊กแลนด์ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เป็นเวลานาน 7 วัน หลังจากพบชุมชนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาของการติดเชื้อ
นี่เป็นการประกาศมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งหลังจากเมื่อสองสัปดาห์ก่อนชาวเมืองโอ๊กแลนด์เกือบ 2 ล้านคนต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เป็นช่วงเวลาสั้นๆ นาน 3 วันเนื่องจากครอบครัวที่มีสมาชิก 3 คนติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากสหราชอาณาจักร
ทางการสาธารณสุข ซึ่งยังไม่ได้ยืนยัีนตัวเลขผู้ติดเชื้อในครั้งนี้ ระบุว่า กำลังมีการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสสายพันธุ์ใหม่
โดยผู้ป่วยแสดงอาการของโรคเมื่อวันที่ 23 ก.พ.และมีโอกาสที่จะติดเชื้อมาตั้งแต่ 21 ก.พ.แล้ว และได้ไปสถานที่สาธารณะหลายแห่งในช่วงเวลานั้น
“ จากข้อมูลนี้ เราโชคไม่ดี และจำเป็นต้องปกป้องชาวโอ๊กแลนด์อีกครั้ง” นายกฯอาร์เดิร์นกล่าวในการประกาศล็อกดาวน์เมืองโอ๊กแลนด์
กระทรวงสาธารณสุขพยายามสอบสวนโรคว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่มีความเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์เดือนก.พ. หรือไม่ ซึ่งตอนนี้มีผู้ติดเชื้อ 12 ราย
มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งมีความเข้มงวดในระดับ 3 จะอนุญาตให้ประชาชนออกจากบ้านได้เพียงการออกไปซื้อสิ่งของจำเป็นและทำงานสำคัญ จากถ้อยแถลงของอาร์เดิร์น
โดยสถานที่ราชการในเมืองยังคงปิดทำการ
มาตรการคุมเข้มพื้นที่อื่นๆในประเทศจะอยู่ในระดับ 2 ซึ่งจำกัดจำนวนการรวมตัวกันของประชาชน
ที่ผ่านมา นิวซีแลนด์ ที่มีประชากร 5 ล้านคนและเป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,000 กว่ารายนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19
การแข่งขันคริกเก็ตนัดสำคัญระหว่างออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์จะยังคงแข่งขันต่อไปตามกำหนดการเดิมในวันที่ 5 มี.ค. ในกรุงเวลลิงตัน โดยไม่มีผู้เข้าชมการแข่งขัน
ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียทั่วโลกจำนวนหนึ่งแสดงความไม่พอใจกับการรับมือที่เข้มงวดของนิวซีแลนด์ที่ประกาศล็อกดาวน์เมืองใหญ่ที่สุดเพียงเพราะมีผู้ติดเชื้อเพียงหนึ่งราย มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งทวีตว่า “พวกเขาบ้าไปแล้ว”