เกาหลีใต้คลายคุมเข้มธุรกิจนอกโซล
โซล – เมื่อวันที่ 6 ก.พ. เกาหลีใต้ผ่อนคลายมาตรการเคอร์ฟิวให้กับร้านอาหารกว่าครึ่งและธุรกิจอื่นๆนอกกรุงโซล โดยให้เปิดบริการนานขึ้นอีก 1 ชม. ท่ามกลางเสียงคัดค้านมาตรการคุมเข้มเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีอยู่
หลังจากมีมาตรการเชิงรุกเข้มข้นทั้งในการตรวจหาเชื้อไวรัสและสอบสวนโรคเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดหลายระลอกก่อนหน้านี้ โดยไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ ทางการได้คุมเข้มมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพิ่มขึ้นเพื่อต่อสู้กับการระบาดรอบล่าสุด
โดยเมื่อวันที่ 6 ก.พ. นายกรัฐมนตรีชองซเยคยอนกล่าวในการประชุมหลายหน่วยงานว่า การคุมเข้มทำให้เจ้าของธุรกิจเล็กๆและประชาชนที่รับจ้างอิสระถูกบีบขนถึงขีดจำกัดที่จะทนรับได้
ดังนั้น ธุรกิจนอกกรุงโซลใฝนตอนนี้ สามารถเปิดบริการได้จนถึงเวลา 22.00 น. “ แต่มาตรการคุมเข้มให้ปิดเวลา 21.00 น.จะยังคงมีผลบังคับใช้ในพื้นที่กรุงโซล ซึ่งมีการติดเชื้อกว่า 70% และยังมีความเสี่ยงสูงจากการแพร่เชื้อ”
คังโดแท รมช.สาธารณสุขกล่าวในการประชุมว่า การผ่อนคลายมาตรการนี้มีผลกับธุรกิจประมาณ 500,000 แห่งทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร ฟิตเนสและบาร์คาราโอเกะ โดยธุรกิจที่ฝ่าฝืนมาตรการจะถูกสั่งปิดนาน 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงโซล เมืองท่าที่อยู่ติดกันอย่างอินชอน และจ.คยองกี ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 25 ล้านคน
เจ้าของร้านอาหารและคาเฟ่ทั่วประเทศพากันโวยเรื่องผลกระทบจากมาตรการคุมเข้มธุรกิจของพวกเขา โดยบรรดาเจ้าของฟิตเนสที่ได้รับผลกระทบพากันเปิดบริการเพื่อประท้วงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
ทางการขยายเวลามาตรการเว้นระยะห่างจนถึง 14 ก.พ. ล่วงหน้าก่อนวันหยุดเทศกาลตรุษจีนที่เริ่มตั้งแต่ 11 ก.พ. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชาวเกาหลีใต้นิยมเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อรวมตัวกันในครอบครัว
รมช.คังขอให้ประชาชนอยู่บ้านในช่วงวันหยุด เนื่องจากกลัวว่าการเดินทางอาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นอีก และระบุว่า ทางการจะยังคงห้ามประชาชนรวมตัวกันเกิน 4 คน
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 393 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากโควิด-19 อยู่ที่ 80,524 ราย และมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 1,464 ราย