ลูกค้าจีนหนุนยอดขาย Burberry
แบรนด์ Burberry รายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสสิ้นสุดเดือนมิ.ย. โดยได้อานิสงส์จากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าชาวจีน
โดยแบรนด์ค้าปลีกแฟชั่นหรูหราราคาแพงอย่าง Burberry เริ่มต้นปีงบประมาณ 2560 -2561 ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 4% ในตลาดจีน ทั้งนี้ ยอดขายของแบรนด์เติบโตขึ้นมากในกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นตอนกลาง
นับเป็นการรายงานผลลัพธ์จากตัวเลขยอดขายครั้งแรกภายใต้การบริหารของซีอีโอคนใหม่คือ Marco Gobbetti โดย Gobbetti กล่าวว่า “ เราพอใจกับผลประกอบการในไตรมาสแรก ขณะที่ยังคงต้องใส่ใจกับงานให้มากยิ่งขึ้น ”
Christopher Bailey เคยรับหน้าที่เป็นซีอีโอของบริษัทก่อนหน้านี้จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นเดือนก.ค.เขาได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์
“ นี่เป็นเวลาของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับแบรนด์ Burberry และอุตสาหกรรมสินค้าหรูหราที่เติบโตกว้างขวางขึ้น ผมรอคอยที่จะได้ต่อยอดจากพื้นฐานที่ Christopher และทีมงานได้ริเริ่มไว้ และจะสร้างสรรค์พลังงานใหม่เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตให้กับแบรนด์ ” เขากล่าว
ทั้งนี้ หุ้นของ Burberry พุ่งขึ้น 5% ในช่วงต้นของการซื้อขาย หลังจากมีการประกาศตัวเลขยอดขายที่เพิ่มขึ้น
บริษัทต้องการเก็บเงินให้ได้อย่างน้อย 100 ล้านปอนด์ในปี 2562 และกล่าวว่ากำลังดำเนินการอยู่ในแผนที่จะเก็บได้ 50 ล้านปอนด์ในปี 2561
มีการเผยแพร่รายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้นหลังจาก Burberry รายงานผลกำไรประจำปีที่ลดลงสำหรับปีงบประมาณ 2559 – 2560 ก่อนหน้านี้
Steve Clayton ผู้จัดการกองทุนของ Hargreaves Lansdown กล่าวว่า “ นี่เป็นผลประกอบการที่ดีสำหรับ Burberry ซึ่งดูเป็นแบรนด์ที่ซบเซามานาน”
โดยเขาเตือนว่า Burberry ดูเหมือนจะหยุดจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ค้าปลีกคู่ค้าบางรายซึ่งสต็อกสินค้าของแบรนด์อยู่ในปัจจุบัน
“ ระดับตลาดของผู้ค้าปลีกบางรายดูเหมือนจะไม่ไฮเอนด์พอสำหรับแบรนด์ Burberry และไม่ใช่สถานที่ซึ่งต้องการให้แบรนด์ไปโชว์สินค้าอยู่ที่นั่น ทางบริษัทจึงตั้งเป้าจะหยุดขายให้กับพวกนั้น” เขากล่าว
“ ด้วยการเร่งเครื่องเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ตลาดสำหรับช่วงครึ่งหลังของปี จะยิ่งทำให้แบรนด์ Burberry เติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ” เขาเสริม.