ฝนถล่มปารีสน้ำท่วมหนัก
เมื่อคืนวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุพายุฝนยาวนานกว่า 2 ชม.ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จนมีระดับน้ำฝนสูงถึง 54 มม. เทียบเท่ากับปริมาณน้ำฝนที่ตกต่อเนื่องกัน 27 วันเลยทีเดียว
สำนักงานสภาพอากาศระบุว่า มีปริมาณน้ำฝนมากถึง 49.2 ภายในหนึ่งชั่วโมง โดยถือว่าเป็นน้ำท่วมในเดือน ก.ค.ครั้งใหญ่ที่สุดของกรุงปารีส
เนื่องจากอุทกภัยครั้งใหญ่ ทำให้ปารีสต้องปิดสถานีรถไฟใต้ดินมากถึง 20 สถานี และบางแห่งยังคงปิดตัวมาจนถึงเช้าของวันที่ 10 ก.ค.ซึ่งมีผู้ใช้บริการจำนวนมากที่ต้องเดินทางไปยังที่ทำงานของตน
นอกจากนี้ หลายพื้นที่ในประเทศสวิตซ์แลนด์ถูกลมพายุรุนแรงโจมตี และยังมีพายุลูกเห็บที่ทำให้เกิดเหตุน้ำท่วมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกด้วย
ในกรุงปารีส เมื่อคืนวันที่ 9 ก.ค.ฝนเริ่มตกหนักเมื่อเวลา 21.00 น.และทางกรมอุตุนิยมวิทยาของฝรั่งเศสระบุว่า ปริมาณน้ำฝนนั้นสูงกว่าที่เคยมีการบันทึกไว้ที่ 47.4 มม. เมื่อวันที่ 2 ก.ค 2538 นอกจากนี้ฝนยังคงตกหนักต่อเนื่องจนถึงวันที่ 10 ก.ค.อีกด้วย
รวมไปถึงบางพื้นที่ในภาคตะวันตกและโดยรอบกรุงปารีสมีปริมาณน้ำฝนระหว่างช่วงกลางวันของวันที่ 9 ก.ค. จนถึง 8.00 น.ของวันที่ 10 ก.ค. สูงกว่าปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อเดือนอีกด้วย
ในขณะที่สวนมงต์ซูรี ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของใจกลางกรุงปารีส มีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 68 มม. ใน 24 ชม. และที่หมู่บ้านซิฟเรย์ ทางตะวันตกของประเทศมีปริมาณน้ำฝนสูงมากถึง 86 มม. เลยทีเดียว
แพททริค กาลัว นักพยากรณ์อากาศระบุว่า ภาพจากเรดาร์ชี้ให้เห็นว่าแคว้นปัวตู เบอร์รี และลีมูแซง อาจมีปริมาณน้ำฝนสูงมากถึง 100 มม.เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการเตือนให้ระวังพายุจำนวนหนึ่งซึ่งอาจจะรุนแรงขึ้นในวันที่ 10 ก.ค. เนื่องจากสภาพอากาศที่เริ่มก่อตัวและเดินทางไปยังทิศตะวันออก
กองดับเพลิงของปารีสได้รับสายการแจ้งเหตุฉุกเฉินมากถึง 1,700 สาย และได้เข้าช่วยเหลือแล้วทั้งหมด 87 แห่ง รวมถึงเหตุด่วนในชั้นใต้ดินของกระทรวงวัฒนธรรม
เหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงนี้สะท้อนให้เห็นถึงเหตุการณ์ในอดีตเมื่อเดือน มิ.ย. 2559 เมื่อเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และ ออคเซ่ย์ ต้องเคลื่อนย้ายผลงานศิลปะที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ไปยังพื้นที่ปลอดภัย เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำแซนแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี และทำให้บาร์เรียฉุกเฉินถูกเปิดใช้งาน.