เหตุร้ายที่มหาวิหาร Notre Dame
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ชายคนหนึ่งถือค้อนพร้อมกับร้องตะโกนว่า “ นี่สำหรับซีเรีย” และได้ทำร้ายตำรวจบาดเจ็บก่อนที่เขาจะถูกยิงและได้รับบาดเจ็บจากตำรวจนายอื่นหน้ามหาวิหาร Notre Dame ในกรุงปารีส ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในฝรั่งเศส
อัยการของกรุงปารีสทำการสอบสวนในประเด็นการตั้งรับการก่อการร้ายกับการโจมตีในครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกหลังจากประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนที่แล้ว และไม่กี่วันก่อนจะมีการเลือกตั้งรัฐสภารอบแรกของฝรั่งเศส
Gerard Collomb รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า ผู้ก่อเหตุพกบัตรประจำตัวนักศึกษาประเทศแอลจีเรีย และข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่า เขาลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว
เจ้าหน้าที่ติดอาวุธหลายสิบคนปิดล้อมบริเวณโดยรอบ และทำให้มหาวิหารถูกปิดกั้นโดยมีนักท่องเที่ยวและผู้เข้าไปสักการะบูชาเกือบ 1,000 คนอยู่ภายใน
เหตุสะเทือนขวัญในกรุงปารีสครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุก่อการร้ายในกรุงลอนดอนเพียง 3 วัน และก่อนหน้านั้น ก็เพิ่งเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในงานแสดงคอนเสิร์ตในเมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
“ เหตุร้ายเกิดขึ้นเกือบทุกสัปดาห์แล้วในตอนนี้ ผมหวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับการเลือกตั้ง” นายเดวิด สต็อคโล นักเดินทางชาวอเมริกันในกรุงปารีสกล่าวกับรอยเตอร์ทีวี
แอนนา เลวี นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันกล่าวว่า เธอกำลังจะก้าวเข้าไปในมหาวิหารขณะที่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น “ มันน่ากลัวมาก เพราะคุณไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนก็วิ่งหนีกันหมด” เธอกล่าว
ขณะที่เกิดเหตุการณ์ ในมหาวิหารมีนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดและผู้ที่เข้ามาสักการะประมาณ 900 คน
โดยดีน แบลร์ หนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ว่า “ นี่ไม่ใช่ประสบการณ์วันหยุดที่ต้องการ ติดแหง็กอยู่ใน Noter Dame หลังจากตำรวจยิงคนร้าย เราอยู่กับลูกที่หวาดกลัว 2 คน”
ประธานาธิบดีมาครงต้องการยืดระยะเวลาของภาวะฉุกเฉินที่ประกาศใช้มาตั้งแต่เกิดเหตุกราดยิงและระเบิดฆ่าตัวตายในกรุงปารีสปี 2558 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากถึง 130 คนออกไปอีก
จากการประมวลเหตุการณ์ทั้งหมด มีจำนวนผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 230 คนทั่วประเทศฝรั่งเศสในรอบ 2 ปีครึ่งนี้ โดยส่วนใหญ่เป็นการลงมือของกลุ่มก่อการร้ายจากรัฐอิสลาม
ทั้งนี้ การโจมตีในวันที่ 6 มิ.ย.คล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนเม.ย. ที่คนร้ายก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งเสียชีวิตและอีก 2 นายได้รับบาดเจ็บบนถนน Champs-Elysees
“ เราเปลี่ยนจากการก่อการร้ายแบบมีการวางแผนมาอย่างดีมีสติปัญญามาเป็นการก่อการร้ายที่ใช้วัตถุอะไรก็ได้มาก่อเหตุ” ท่านรัฐมนตรี Collomb กล่าว
โดยเขาได้สะท้อนคำพูดของนายกรัฐมนตรีเธเรซา เมย์ ซึ่งกล่าวว่า สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับเทรนด์ใหม่ที่ผุ้ก่อการร้ายได้แรงบันดาลใจมาจากการทำเลียนแบบกันและใช้ความดิบเถื่อนมาอยู่ในความหมายของการก่อเหตุร้าย.