เกาหลีใต้ชูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.รัฐบาลใหม่ของเกาหลีใต้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 11.2 ล้านล้านวอน ( 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
เพื่อเพิ่มเงินอุดหนุนสวัสดิการสังคมและเป็นการขยับก้าวแรกตามคำสัญญาในช่วงการเลือกตั้งของประธานาธิบดีมุนแจอินว่าจะสร้างงานในส่วนสาธารณะอีก 810,000 ตำแหน่ง
โดยงบประมาณจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 5.4 ล้านล้านวอนจะถูกใช้จ่ายเพื่อสร้างงานในส่วนสาธารณะและบริการทางสังคม เช่น นักดับเพลิง ครู และบุรุษไปรษณีย์ อ้างอิงจากถ้อยแถลงของกระทรวงการคลังงบประมาณอีก 2.3 ล้านล้านวอนจะกลายเป็นเงินอุดหนุนในส่วนการลาหยุดงานเพื่อเลี้ยงดูบุตรหลังคลอดของมารดา และเพื่อการบริการทางการแพทย์ให้กับผู้สูงอายุ
ทั้งนี้ รัฐบาลประเมินว่าการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาของรัฐบาลจะช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ถึง 0.2% ซึ่งอาจเพิ่มแนวโน้มการเติบโตของปี 2561ได้ 2.6%
รัฐบาลคาดการณ์ว่า งบประมาณที่เพิ่มขึ้นจะช่วยสร้างงานเพิ่มได้อีก 71,000 ตำแหน่งในแรงงานภาคสาธารณะของรัฐ และ 15,000 ตำแหน่งในภาคเอกชน
“ นี่เป็นเงินงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับการสร้างงาน” พัคชุนซอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวในการแถลงข่าว
“ มีความกังวลถึงจำนวนงานที่น้อยลง โดยเมื่อ 10 ปีก่อน คนหนุ่มสาวเคยมีตัวเลขการว่างงานเพิ่มเป็น 2 เท่าของอัตราการว่างงาน 3.5% แต่ตอนนี้ ตัวเลขเพิ่มเป็น 3 เท่าแล้ว”
โดยจำนวนคนว่างงานในเกาหลีใต้วัย 15 – 29 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 11.2% ในเดือนเม..ย. ถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีนี้จะเติบโตขึ้นสูงที่สุดในรอบ 6 ไตรมาสก็ตาม
ช่องว่างรายได้ที่กว้างห่างออกไปและดีมานด์ในประเทศที่หดตัวเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับรัฐบาล โดยเฉพาะการส่งออกที่เพิ่งจะฟื้นตัวหลังจากซบเซามานานเกือบ 2 ปี
ทั้งนี้ รายได้เพื่อใช้จ่ายในครัวเรือนโดยเฉลี่ยของเกาหลีใต้ลดลง 1.1% ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีที่สุดหลังเกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกในปี 2552 ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนเติบโตเพียง 0.4% ในไตรมาสแรก ต่ำกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 1.1%
“ จากการบริโภคที่อ่อนแรงลง เราเชื่อว่าการเพิ่มงานจะช่วยหนุนรายได้และส่งผลกระทบต่อการบริโภคในท้ายที่สุด” รัฐมนตรีพัคกล่าว
งบประมาณเพิ่มเติมนี้จะถูกรวมไปกับงบประมาณจำนวน 400.5 ล้านล้านวอนของปี 2560 ที่สมัชชาแห่งชาติเคยพิจารณาอนุมัติไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว โดยรัฐบาลมีแผนจะเสนอให้สมัชชาแห่งชาติพิจารณางบประมาณเพิ่มเติมในวันที่ 7 มิ.ย.นี้
โดยงบประมาณที่เพิ่มขึ้นมาประมาณ 8.8 ล้านล้านวอนจะถูกชดเชยด้วยรายได้จากการจัดเก็บภาษีในปีนี้
ขณะที่อีก 1.1 ล้านล้านวอนจะมาจากรายได้ของรัฐบาลที่เหลืออยู่จากปี 2559 และที่เหลืออีก 1.3 ล้านล้านวอนจะมาจากกองทุนสาธารณะที่บริหารจัดการโดยรัฐวิสาหกิจ อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงการคลัง.