ออสเตรเลียล็อกดาวน์ซิดนีย์ หลังติดเชื้อพุ่ง
ซิดนีย์ – เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. เมืองซิดนีย์ถูกโดดเดี่ยวจากพื้นที่ส่วนอื่นของออสเตรเลีย หลังจากทุกรัฐของประเทศประกาศคุมเข้มการเดินทางขาเข้าและขาออกจากซิดนีย์ เพราะมีคลัสเตอร์การระบาดในเมืองนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 70 ราย
โดย The Australian Capital Territory (ACT) ได้ส่งข้อความถึงซิดนีย์ ( ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศคือกว่า 5 ล้านคน) อย่างเป็นทางการว่า “อย่าเดินทางมาหาเรา” โดยเตือนว่า หากเดินทางมาจะถูกกักตัว 14 วันเมื่อมาถึง
“ หากคุณไม่ใช่ประชาชนของ ACT และเคยไปที่มหานครซิดนีย์ เราของ่ายๆคือ อย่าเดินทางมาที่ ACT” ฝ่ายสาธารณสุขของ ACT ระบุ
รัฐวิคตอเรีย ควีนส์แลนด์ และนอร์เทิร์นเทริทอรี ประกาศห้ามประชาชนที่เดินทางมาจากซิดนีย์ตั้งแต่ 21 ธ.ค.เป็นต้นไป
โดยตำรวจรัฐควีนส์แลนด์จะเข้มงวดที่ด่านตรวจที่พรมแดนรัฐนิวเซาธ์เวลส์เพื่อช่วยคุมเข้มสกัดการระบาดของโควิด-19
ขณะที่เซาธ์ออสเตรเลียประกาศใช้มาตรการกักตัว 14 วันสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากซิดนีย์ในวันที่ 20 ธ.ค. และห้ามนักเดินทางจากพื้นที่ซึ่งมีการระบาด รัฐแทสมาเนียเริ่มมีมาตรการเดียวกันในวันที่ 19 ธ.ค. และรัฐเวสต์เทิร์นออสเตรเลียประกาศคุมเข้มพรมแดนรัฐ
นักเดินทางจากพื้นที่อื่นของรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ( ซึ่งมีซิดนีย์เป็นเมืองหลวงของรัฐ) จะต้องแสดงเอกสารยืนยันว่าไม่ได้มาจากพื้นที่ชานเมืองซิดนีย์ที่เกิดการระบาด หากพวกเขาต้องการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างรัฐ
ประมาณ 1 ใน 4 ของประชาชน 1 ล้านคนในย่านชายหาดนอกเมืองซิดนีย์ซึ่งเกิดการระบาด ต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดจนถึงเทศกาลคริสต์มาส
“ หากเราสามารถล็อกดาวน์ที่นี่ และสกัดโรคได้ ทุกคนก็สามารถมีอิสระ แต่หากการติดเชื้อขยายตัว เราก็จะถูกกักตัวรวมกัน”
ในวันที่ 20 ธ.ค. แกลดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาธ์เวลส์ระบุว่า จำกัดการรวมตัวของประชาชนในพื้นที่ส่วนอื่นของซิดนีย์ โดยครัวเรือนมีการรวมตัวกันได้ไม่เกิน 10 คน และภายในโรงแรมที่พักไม่เกิน 300 คน ท่ามกลางมาตรการคุมเข้มอื่นๆ
“เราต้องทำตอนนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะพ้นจากการระบาด” เบเรจิกเลียนระบุ
เธอยังขอให้ประชาชนในมหานครซิดนีย์สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ แม้จะไม่มีการบังคับก็ตาม
“หากคุณออกไปซื้อของที่ไหนก็ตามในนิวเซาธ์เวลส์ โปรดสวมหน้ากาก หากคุณไม่ศาสนสถาน โปรดสวมหน้ากาก และหากเป็นไปได้ กรุณางดใช้ขนส่งสาธารณะ หากคุณไม่สวมหน้ากาก” เธอระบุ
จนถึงสัปดาห์นี้ ออสเตรเลียไม่มีการติดเชื้อในประเทศมานานกว่าสองสัปดาห์ และยกเลิกมาตรการคุมเข้มส่วนใหญ่ก่อนหน้าเทศกาลคริสต์มาส การระบาดในซิดนีย์ และการคุมเข้มพรมแดนทำให้แผนการเดินทางช่วงวันหยุดคริสต์มาสกลายเป็นความวุ่นวาย
“ สิ่งสำคัญที่เราควรระลึกถึงคือเราเข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสต์มาส แต่ไวรัสยังไม่จากไปไหน และเรายังคงต้องระวังตัว” นายกรัฐมนตรีสก็อต มอร์ริสันระบุในการแถลงทางโทรทัศน์
ออสเตรเลียหลีกเลี่ยงสภาวะรุนแรงที่สุดของการระบาดด้วยการปิดพรมแดน ล็อกดาวน์ มีการตรวจหาเชื้อเป็นวงกว้าง และมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม จนถึงตอนนี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 28,100 ราย โดยส่วนใหญ่คือในรัฐวิกตอเรีย และมีผู้เสียชีวิต 908 ราย
ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขของรัฐนิวเซาธ์เวลส์ระบุว่า มีการตรวจหาเชื้อกว่า 28,200 รายในรอบ 24 ชม. และขอให้ประชาชนเข้ามาตรวจหาเชื้อให้มากขึ้น ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงต้นตอของไวรัสในซิดนีย์ แต่การตรวจสารพันธุกรรมชี้ว่าเป็นซากเชื้อไวรัสจากสหรัฐฯ