ทรัมป์ทวีตรัวโต้ข่าวลวง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เดินทางกลับจากการไปเยือนต่างประเทศครั้งแรกของเขาในฐานะผู้นำสหรัฐฯ และต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาเกี่ยวกับทีมทำงานบริหารของเขา
เขาทวีตข้อความรัวๆ ในทวิตเตอร์ว่าทุกข่าวลบเป็นข่าวเท็จ ขณะที่กล่าวชมทริปการเยือนต่างประเทศของเขาว่า เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
โดยผู้นำสหรัฐฯ เริ่มต้นทวีตข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เช้าวันที่ 28 พ.ค. เขาประกาศว่า ทริปการเดินทางไปเยือนต่างประเทศ 9 วันของเขาคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของสหรัฐฯ ก่อนที่จะทวีตวิจารณ์ข่าวที่รั่วออกมาก่อนหน้านี้ จากแหล่งข่าวนิรนามในสัปดาห์ที่แล้วที่มีการรายงานข่าวอย่างถี่ยิบราวกับการทิ้งระเบิดในประเด็นความสัมพันธ์กับรัสเซียของทีมทำงานบริหารของเขา
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์นิ่งเฉย ไม่ออกมาตอบโต้ต่อการรายงานข่าวนี้ในระหว่างทริปการเยือนต่างประเทศ หลังจากที่สื่อ NBC รายงานเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ว่านายจาเร็ด คุชเนอร์ ซึ่งเป็นทั้งลูกเขยและที่ปรึกษาของเขา กำลังถูกดำเนินการสืบสวนโดย FBI ในประเด็นความสัมพันธ์กับรัสเซีย
โดยเขาทวีตบอกกับผู้ติดตามบนทวิตเตอร์ 30.8 ล้านรายของเขาว่า เป็นความเห็นของเขาเองว่าหลายข่าวที่หลุดออกมาจากทำเนียบขาวล้วนเป็นข่าวเท็จที่ถูกสื่อประโคมขึ้นมา และเขายังได้วิจารณ์แหล่งข่าวนิรนามว่า เป็นไปได้ที่แหล่งข่าวเหล่านั้นจะไม่มีตัวตนจริงๆ“ # ข่าวลวงคือศัตรู ! ” เขาทวีต
เมื่อต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา สื่อวอชิงตันโพสต์และนิวยอร์กไทม์รายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เปิดเผยความลับสุดยอดที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลของกลุ่มก่อการร้ายไอเอสให้กับเจ้าหน้าที่ทูตของรัสเซียในระหว่างการประชุมที่ทำเนียบขาว โดยผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมาตอบโต้ว่า เขามีสิทธิอย่างเต็มที่ในการแชร์ข้อมูลที่แท้จริงกับรัสเซีย
ผู้นำสหรัฐฯ เริ่มทวีตรัวๆ เกี่ยวกับข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรีเธเรซา เมย์ของอังกฤษโกรธมากที่ข้อมูลความลับของสหราชอาณาจักรที่แชร์ให้กับสหรัฐฯ เกี่ยวกับเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองแมนเชสเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรั่วหลุดออกไปถึงสื่อได้
และเมื่อคืนวันที่ 28 พ.ค. ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทวีตบนทวิตเตอร์ เพื่อช่วยผลักดันร่างกฎหมายประกันสุขภาพของพรรครีพับลิกันและมาตรการทางภาษี ก่อนที่จะพูดชัดเจนว่า เขาได้เห็นปฏิกิริยาที่มีต่อการทวีตอย่างสับสนของเขาในวันที่ 28 พ.ค.
“ สื่อที่สร้างข่าวลวงข่าวเท็จทำงานอย่างหนักเพื่อทำลายชื่อเสียงและลดทอนคุณค่าการใช้งานโซเชียลมีเดียของผมลง เพราะพวกเขาไม่ต้องการให้อเมริการับรู้เรื่องจริง ! ” เขาทวีต.