นายกฯ โชว์สหรัฐฯ คุมโควิดอยู่หมัด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบ ตณะนักลงทุนสหรัฐฯ-อาเซียน โชว์ผลงานคุมโควิด-19 ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างดี
เวลา 09.30 น. วันที่ 25 พ.ย. ที่ห้องวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้อนุญาตให้ คณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (U.S. – ASEAN Business Council: USABC) ในรูปแบบกึ่งออนไลน์ (hybrid) โดยมีคณะนักธุรกิจบริษัทสมาชิก USABC จำนวน 28 บริษัท เข้าเยี่ยมคารวะที่กระทรวงการต่างประเทศ และคณะนักธุรกิจบริษัทสมาชิก USABC จำนวน 11 บริษัท เข้าเยี่ยมคารวะผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อเป็นโอกาสในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจระหว่างไทยกับสหรัฐฯ
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงพัฒนาการที่สำคัญของนโยบายไทย กล่าวคือ ไทยดำเนินมาตรการด้านสาธารณสุขควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างจริงจังต่อเนื่อง ไทยมีจุดแข็งด้านระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพ ได้รับการยอมรับในแวดวงผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของไทยในด้านสาธารณสุขอันเป็นผลจากการลงทุน ในด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความร่วมมือกับ CDC (Centres for Disease Control and Prevention) และ AFRIMS (Armed Forces Research Institute of Medical Sciences) ของสหรัฐฯ ประกอบกับประสบการณ์รับมือการแพร่ระบาดช่วงโรคซารส์ เมื่อปี 2546
รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินมาตรการทางเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 จำนวน 1.9 ล้านล้านบาท (เท่ากับ 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยได้ดำเนินมาตรการเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจ และมาตรการช่วยเหลือทางภาษีและค่าธรรมเนียมสำหรับการปรับโครงสร้างหนี้สำหรับภาคธุรกิจ มาตรการช่วยเหลือบุคคลที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งในส่วนมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ รัฐบาลให้ความสาคัญกับการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ เช่น การสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานรากโดยเฉพาะการสนับสนุนเงินกู้สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย โครงการ “คนละครึ่ง” และโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแหล่งรายได้และการจ้างงานที่สำคัญของไทย
นอกจากนี้ รัฐบาลมองไปข้างหน้าในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในโลกยุคหลังโควิด-19 ให้ความสำคัญกับแนวคิด “สามใหม่” (Three New) ซึ่งได้นำเสนอในการประชุม ASEAN ที่ผ่านมา เป็นแนวทางในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ภายใต้วิถีปกติใหม่ ได้แก่ 1. การส่งเสริมการพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน 2. การแสวงหาพลังเศรษฐกิจใหม่โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นจุดแข็งของภูมิภาค และ 3. การสร้างระบบนิเวศทางเศรษฐกิจใหม่ ที่เน้นการเชื่อมโยงและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่ประชาชนและธุรกิจรายย่อยสามารถเข้าถึงได้ ทั้งสามด้านจะประสบความสำเร็จได้เมื่อทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม
เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศที่เหมาะสมต่อการลงทุน หากมีการเอื้ออำนวยและส่งเสริมสภาวะแวดล้อมที่ดีต่อการลงทุน ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มีศักยภาพในด้านการลงทุนอย่างยิ่งในโลก พร้อมกล่าวชื่นชมการรับมือกับการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของไทย ที่ประสบสำเร็จและได้รับการยอมรับเป็นที่ประจักษ์
ประธาน USABC กล่าวชื่นชมการจัดการโรคโควิด-19 ของรัฐบาล ทำให้ประเทศไทยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนของสหรัฐฯ โดยไทยเป็นตลาดการค้าที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย มั่นใจว่าประเทศไทยจะมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูอาเซียนภายหลังโรคโควิด-19 ทั้งนี้ USABC ได้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อแสวงหาความร่วมมือใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) ส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุข 2) สร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภค 3) การฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยินดีร่วมมือกับไทยในการแจกจ่ายวัคซีนอย่างทั่วถึงและราบรื่น พร้อมหวังว่าประเทศไทยจะเปิดเสรีในการเดินทางข้ามพรมแดนมากขึ้นเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยว
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณผู้เข้าร่วม ชื่นชมทุกบริษัทที่ล้วนเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ซึ่งรัฐบาลพร้อมจะให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวกอย่างดีที่สุด และย้ำไทยให้ความสำคัญ โครงการ EEC ขอเชิญชวนให้ภาคเอกชนสหรัฐฯ ร่วมขยายการลงทุน ยินดีที่ภาคเอกชนสหรัฐฯ เชื่อมั่นสนใจเพื่มการลงทุนในไทย และที่ EEC อย่างต่อเนื่อง