ม็อบ ยึดแยกราชประสงค์ เมินสถานการณ์ฉุกเฉิน
การชุมนุมประท้วงรัฐบาล ยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยวันที่ 15 ต.ค.นัดรวมพลแยกราชประสงค์ แม้ บิ๊กตู่ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินก็ตาม
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์ Aec10news รายงานความเคลื่อนไหวการชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โดยถึงแม้จะมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามทำกิจกรรมรวมกลุ่มตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป แต่ผู้ชุมนุม ได้นัดรวมตัวกันที่แยกราชประสงค์เวลา 16.00 น. ซึ่งเป็นการชุมนุมต่อเนื่องจากวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมจากการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล
สำหรับการชุมนุมครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายร้อยนาย มาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย พร้อมกับมีชุดควบคุมฝูงชน เฝ้าระวังหากเกิดเหตุปะทะ
ทั้งนี้ เมื่อเริ่มต้นการชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้กัดพื้นที่บางส่วนไว้ ป้องกันการปิดถนน ซึ่งไม่นานต่อมาผู้ชุมนุมจึงได้รวมตัวกันใช้กำลังผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจจนถอยร่น สามารถปักหลักชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ได้สำเร็จ โดยเมื่อสามารถยึดครองแยกราชประสงค์ได้แล้ว ผู้ชุมนุมต่างพากันถ่ายภาพป้ายแยกราชประสงค์ไว้เป็นที่ระลึก ก่อนจะมีการตั้งเวทีขนาดเล็กเพื่อปราศรัย
ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า ถ้าวันนี้มีการสลายการชุมนุมอีก ฝ่ายรัฐจะต้องเจอกับประชาชน ที่แยกราชประสงค์เคยมีคนตาย เราขอเรียกร้องให้ปล่อยเพื่อเราออกมา ถ้าไม่ปล่อยตัวเพื่อนเรา เราก็พร้อมจะติดคุกกับเพื่อนเราด้วย
ไมค์ ระยอง กล่าวว่า การเอาทหารออกมาดูแลความสงบเรียบร้อยภายหลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นเหมือนสัญญาณของการรัฐประหาร โดยหากมีการรัฐประหารครั้งนี้ รับรองได้ว่าประชาชนต้องออกมาต่อต้านอย่างแน่นอน เราจะไม่ถอยให้เป็นทาสเหมือนเดิม เราจะไม่ถอย ไม่ว่าจะเหลือกี่คนก็ตาม ตนเป็นจะเป็นคนสุดท้ายที่เดินออกจากตรงนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงของการชุมนุม ผู้ชุมนุมได้ตระโกนคำว่า “ปล่อยเพื่อนเรา” อยู่เป็นระยะๆ เช่นเดียวกับการประสานเสียงด่า พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงอยู่เป็นระยะๆเช่นกัน