ก้าวไกล ค้านประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ชอบธรรม
ก้าวไกล ร่อนแถลงการณ์ ค้านประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ชอบธรรม เพราะผู้ชุมนุมได้ประกาศล่วงหน้าแล้วว่ายุติการชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลในเวลา 6 น. แล้ว จึงเป็นการกระทำที่เกินสมควรแก่เหตุ ขัดต่อหลักสากล
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. พรรคก้าวไกล ออกแถลงการณ์ เรื่อง ความเห็นของพรรคก้าวไกลต่อการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และการสลายการชุมนุม ความว่า
ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานครในยามวิกาล จากกรณีการชุมนุมประท้วงของนักศึกษาประชาชนบริเวณทำเนียบรัฐบาลนั้น พรรคก้าวไกลเห็นว่า
(1) การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวไม่มีความชอบด้วยเหตุผล เนื่องจากการชุมนุมประท้วงของนักศึกษาประชาชนเป็นการชุมนุมที่สงบ ปราศจากอาวุธมาโดยตลอด มิได้ก่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายและความไม่สงบเรียบร้อยใดๆ ผู้ชุมนุมมิได้กระทำการที่รุนแรงต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สินของรัฐหรือบุคคลอื่นแต่ประการใด
นอกจากนี้ การกล่าวอ้างว่ามีการกระทำที่กระทบต่อขบวนเสด็จนั้น แท้จริงแล้วผู้ชุมนุมมิได้มีเจตนาจะกระทำการให้กระทบต่อขบวนเสด็จแต่ประการใด พวกเขาไม่ได้ทราบมาก่อนว่าจะมีขบวนเสด็จในเวลาและเส้นทางดังกล่าว และเมื่อทราบภายหลังว่าจะมีขบวนเสด็จ ผู้ชุมนุมก็มิได้เข้าขัดขวางหรือกระทำการอันตรายต่อขบวนเสด็จแต่ประการใด ตรงกันข้ามผู้ชุมนุมได้พยายามหลีกเลี่ยงเส้นทางขบวนเสด็จตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอมาโดยตลอด
ตลอดทั้งวัน นักศึกษาและประชาชนพยายามควบคุมการชุมนุมไม่ให้เกิดการปะทะ อดอนอดกลั้นต่อการยั่วยุหรือการปลุกระดมจากบุคคลที่อ้างว่าจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีผู้ใส่เสื้อสีเหลืองเข้าทำร้ายร่างกายของผู้ชุมนุม
พรรคก้าวไกลจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวโดยทันที
(2) การเข้าสลายการชุมนุมของนักศึกษาประชาชนในยามวิกาล ทั้งๆ ที่ผู้ชุมนุมได้ประกาศล่วงหน้าแล้วว่ายุติการชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลในเวลา 6 น. นั้น เป็นการกระทำที่เกินสมควรแก่เหตุ ขัดต่อหลักสากล สุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สินของประชาชน และอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก
พรรคก้าวไกลเรียกร้องต่อรัฐบาลให้เคารพต่อสิทธิของผู้ถูกจับกุมตามที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยรัฐบาลจะต้องชี้แจงรายละเอียดการจับกุมโดยเร็วที่สุด ต้องเปิดเผยรายชื่อผู้ที่ถูกควบคุมตัว สถานที่ควบคุมตัว พร้อมทั้งให้ทนายความและญาติของผู้ถูกควบคุมตัวได้เข้าพบ
(3) สุดท้าย พรรคก้าวไกลเห็นว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงและการใช้มาตรการรุนแรงใดๆ เพื่อหวังจะดำเนินการต่อการประท้วงของนักศึกษาประชาชนอย่างเด็ดขาด จะไม่ช่วยให้ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี ซ้ำร้ายจะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดขัดแย้งในสังคมมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ทางออกของชาติที่แท้จริงคือ การเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยอย่างสันติ ยุติการสืบทอดอำนาจจากการรัฐประหาร และเปิดให้ประชาชนจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อสร้างระบบการเมืองที่ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกันได้ ระบบการเมืองที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ชาติคือประชาชน