“ดีอีเอส”รวมหลักฐานโพสต์หมิ่น กลาโหม กังวลชุมนุม นศ.
“ดีอีเอส” สั่งรวบรวมหลักฐานทันที โพสต์ไม่เหมาะ กลาโหม กังวลหมิ่นสถาบัน
(12 ส.ค.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า จากเหตุการณ์ชุมนุมล่าสุดเมื่อวานนี้ ซึ่งมีโพสต์เนื้อหาไม่เหมาะสมกระทบต่อจิตใจประชาชนคนไทย ผมสั่งให้รวบรวมหลักฐานที่ผิดกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 10 – 11 ส.ค. 63 (เวลา 16.53 น.)
มีโพสต์ที่ประชาชนแจ้งเข้ามา และตรวจสอบทางออนไลน์พบว่าเข้าข่ายความผิด รวบรวมได้ทั้งสิ้น 114 URLs แยกเป็นเฟซบุ๊ก 75 URLs ทวิตเตอร์ 28 URLs ยูทูป 11 URLs จะมีการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งศาลในวันพรุ่งนี้ และเมื่อมีคำสั่งศาล จะส่งให้แพลตฟอร์มทั้ง 3 เจ้า ถ้าภายใน 15 วันไม่ปิดหรือลบ เราจะดำเนินคดีทันที และปรับแพลตฟอร์มด้วย อัตราโทษไม่เกิน 200,000 บาท และรายวันไม่เกิน 5,000 บาท ต่อ URLs ตาม พ.ร.บ คอมฯ มาตรา 27 ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ร่วมกันแจ้งเข้ามา หากต้องการส่งหลักฐานเพิ่มเติม ส่งได้เลยที่ m.me/DESMonitor หรือเพจ “อาสา จับตา ออนไลน์” จะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องตลอด 24 ชม.ครับ
ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ฝ่ายความมั่นคง มีความกังวลกับสถานการณ์การการชุมนุมที่มีการปลุกชี้นำไปสู่การเรียกร้องในประเด็นที่ละเอียดอ่อน อันจะนำมาซึ่งความแตกแยกของผู้คนในสังคม โดยเฉพาะข้อเรียกร้องที่เกินขอบเขต ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งชาติ
การทำงานของฝ่ายความมั่นคง ยังยึดมั่นและเคารพในสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ที่ถูกกำหนดควบคู่กับหน้าที่ของปวงชนชาวไทยในรัฐธรรมนูญ ซึ่งการชุมนุมและการแสดงออก ถือเป็นสิทธิและเสรีภาพของเราทุกคนที่สามารถกระทำได้ภายใต้กรอบกฎหมายที่กำหนด ขณะเดียวกันเราทุกคน ต้องมีหน้าที่รักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และไม่กระทำการใดที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกเกลียดชังกันในสังคม
ดังนั้น การชุมนุมที่แฝงไปด้วยข้อเรียกร้องที่ล่อแหลมและละเอียดอ่อนดังกล่าว จึงอาจนำมาซึ่งการเผชิญหน้าและเป็นอันตรายต่อความแตกแยกของผู้คนในสังคมวงกว้าง ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของทุกคน ทุกฝ่ายต้องร่วมกันเตือนสติและช่วยควบคุมอารมณ์ทางสังคม
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคงยังเชื่อมั่นว่า การแสดงออกทางความคิดของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ถือเป็นพลังบริสุทธิ์ของสังคมที่มีมาอย่างต่อเนื่องและเป็นพัฒนาการทางสังคมที่สานต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นยากจะแยกกันได้ และมั่นใจว่าเราคนไทยทุกคน ต่างหนักแน่นและมีดุลยพินิจดีพอที่จะไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มใดๆ