จี้ ตระกูลดัง นำตัว”บอส”เข้ากระบวนการ
ศรีสุวรรณ จี้ ครอบครัวนำตัวบอสเข้ากระบวนการยุติธรรม สวนอยู่วิทยา “กว่าจะรู้สึกตัวก็สายเสียแล้ว”
(30 ก.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ตระกูลอยู่วิทยา ได้ส่งข่าวถึงสื่อมวลชนเป็นจดหมายเปิดผนึกจากพี่น้องอยู่วิทยา ซึ่งระบุว่า
“จากกรณีข่าวของคุณวรยุทธ อยู่วิทยา พี่น้องครอบครัวอยู่วิทยาต้องขอโทษสังคมเป็นอย่างสูง ที่ข่าวของบุคคลในครอบครัวได้สร้างความรู้สึกโกรธ เกลียด ไม่พอใจ จนเป็นเหตุของกระแสการเรียกร้องของสังคมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ พี่น้องทุกคนล้วนเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และยืนยันว่าทุกคนให้ความเคารพในกฎหมาย และยึดมั่น ในกระบวนการยุติธรรม ที่ต้องสามารถสร้างความยุติธรรมให้กับทุกคนด้วยความเท่าเทียมกัน และขอเรียกร้อง ให้คุณวรยุทธออกมาแสดงความกระจ่างและความบริสุทธิ์ใจ ให้ครอบครัวอยู่วิทยาที่เหลือ รวมทั้งสังคมและสื่อมวลชน ให้เร็วที่สุด และดำเนินการให้ถูกต้องตามครรลองของสังคมนั้น
จดหมายดังกล่าวอาจเป็นเพียงต้องการลดกระแสความไม่พอใจของสังคมไทยที่มีต่อบอส-วรยุทธ อยู่วิทยา ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อธุรกิจนับพันล้านหมื่นล้านของตระกูลอยู่วิทยาด้วยเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถสื่อถึงความจริงใจของตระกูลอยู่วิทยาที่กล่าวอ้างว่าทุกคนให้ความเคารพในกฎหมาย และยึดมั่น ในกระบวนการยุติธรรม ที่ต้องสามารถสร้างความยุติธรรมให้กับทุกคนด้วยความเท่าเทียมกันได้ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อเดือนตุลาคม 2555 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน สังคมไทยไม่เคยเห็นตระกูลอยู่วิทยา แสดงออกว่าจะรีบเร่งหรือเป็นธุระในการนำตัวผู้ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ การนิ่งเฉย อาจสะท้อนให้เห็นว่า ไม่อยากยุ่งด้วย หรือ เห็นด้วยกับการกระทำนั้น
หากตระกูลอยู่วิทยา จะแสดงความจริงใจอย่างเป็นรูปธรรมแล้วไซร้ มีทางเดียวคือ แสดงออกเชิงประจักษ์ให้สังคมไทยเห็น โดยเร่งประสานนำตัวบอส-วรยุทธ อยู่วิทยา มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตามครรลองของกฎหมาย ในฐานะที่เป็นคนที่ใกล้ชิดบอสที่สุด และย่อมรู้ดีว่าบอสพำนักอาศัยอยู่ ณ ที่ใด ประเทศใดในโลกนี้ พร้อมกับแนะนำให้บอส-วรวุธ กลับมาสารภาพความจริงทั้งหมดเพื่อสร้างความกระจ่างและความบริสุทธิ์ใจ
พร้อมกับเปิดเผยรายชื่อบุคคลในประเทศไทยทั้งหมดที่ให้ความช่วยเหลือบอสตลอดระยะเวลาที่หลบหนีว่ามีใครบ้าง ใครเป็นกุนซือ ใครเป็นผู้ประสานและปฏิสัมพันธ์กับบุคคลในภาครัฐและเอกชน กระทั่งอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีให้ เพราะคนทั่วไปข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายนั้น ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็สามารถเสกให้คดีดังกล่าวยุติลงได้ ถ้าไม่มีคอนเน็กชั่นและพลังอันวิเศษที่เป็นสีแดง สีม่วง หรือสีเทา
“สังคมไทยเป็นสังคมเมืองพุทธคนส่วนใหญ่มีความเมตตา ปราณี และให้อภัยต่อผู้หลงผิดและสารภาพผิดเสมอ แม้ตะกูลอยู่วิทยาจะเพิ่งออกจดหมายเปิดผนึกออกมาแสดงต่อสังคมไทยในครั้งนี้ ดูจะสายเกินไป แต่ถ้าทำตามคำแนะนำดังกล่าวได้ ก็เชื่อมั่นว่าสังคมไทยจะอภัยให้บอส และคนในตะกูลอยู่วิทยาที่อ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกันได้ สุดท้ายเงินอาจซื้อถูกซื้อผิดได้ แต่ซื้อกฎแห่งกรรมไม่ได้” นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด