เช็กเสียงรัฐบาล-ฝ่ายค้านโหวตซักฟอก ระทึก ปรับ ครม.บิ๊กตู่ 2/2 รื้อ “ทีมสมคิด”
การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ 2563 ทั้งฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน “แลกหมัด” กันดุเดือด-เลือดพล่าน
ถึงแม้พรรคฝ่ายค้านจะมี “หมัดน็อค” จาก “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ นำเอกสารออกมา “แฉ” รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ “ก่อสงครามระหว่างประชาชน”
โดยนำ “เอกสารลับ” ของกระทรวงกลาโหม เปิดโปง “ปฏิบัติการข่าวสาร-IO” และ “ปฏิบัติการด้านไซเบอร์”
ทว่าเมื่อศึกซักฟอกแพ้-ชนะกันด้วยจำนวนเสียง-มือสภา ทำให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ – 6 รัฐมนตรี ถือไพ่เหนือกว่า-มีแต้มต่อมากกว่าฝ่ายค้านขาดลอย จึงผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ไปได้ไม่อยาก
สำหรับเสียงก่อนวันลงมติไม่ไว้วางใจ พรรคพลังประชารัฐ-พรรคร่วมรัฐบาล 273 เสียง ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ 118 เสียง พรรคภูมิใจไทย 61 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ 53 เสียง พรรคภูมิใจไทย 61 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 11 เสียง
พรรครวมพลังประชาชาติไทย 5 เสียง พรรคพลังท้องถิ่นไท 4 เสียง พรรคเศรษฐกิจใหม่ 5 เสียง พรรคชาติพัฒนา 3 เสียง พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 เสียง พรรคพลังชาติไทย 1 เสียง พรรคประชาภิวัฒน์ 1 เสียง พรรคพลังไทยรักไทย 1 เสียง
พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 เสียง พรรคประชานิยม 1 เสียง พรรคพลังพลเมืองไทย 1 เสียง พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง พรรคพลังธรรมใหม่ 1 เสียง พรรคไทยศรีวิไลย์ 1 เสียง พรรคประชาธรรมไทย 1 เสียง พรรคไทรักธรรม 1 เสียง
พรรคร่วมฝ่ายค้าน 215 (-1 เสียงงูเห่าพรรคประชาชาติ) เสียง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 135 เสียง พรรคอนาคตใหม่ 56 คน พรรคเสรีรวมไทย 10 เสียง พรรคประชาชาติ 7 เสียง พรรคเพื่อชาติ 5 เสียง พรรคพลังปวงชนไทย 1 เสียง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ 1 เสียง
โดย ส.ส.เท่าที่มีอยู่ในสภาขณะนี้ 488 เสียง องค์ประชุมสภา 244 เสียง ดังนั้น มติไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ – 6 รัฐมนตรี ต้องเกินครึ่ง หรือ มากกว่า 244 เสียง
อย่างไรตาม หลังจากเสร็จศึกนอก-ซักฟอก ศึกในพรรคพลังประชารัฐ-พรรคแกนนำรัฐบาล เตรียมเขย่าโผครม.ประยุทธ์ 2/2 อีกรอบ อย่างเร็วเดือนมีนาคม อย่างช้าเดือนเมษายน
โดยเฉพาะ “ทีมเศรษฐกิจ” โควตาของ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี
เนื่องจาก “ระเบิดเศรษฐกิจ” ถาโถมเข้าใส่ “ทีมเศรษฐกิจ” มิหนำซ้ำปัญหาเรื่อง “ทีมเวิร์ค” ของ 3 รองนายกรัฐมนตรี ที่มาจาก 3 พรรคการเมือง “ต่างคนต่างทำ” ยังไม่ถูกปรับ-จูน
ทีมเศรษฐกิจประชาธิปัตย์ ตั้งตนเป็น “รัฐอิสระ” ไม่เข้าวงประชุมวาระเศรษฐกิจร้อน ตีตัวออกห่างปัญหาเร่งด่วน-คอขาดบาดตาย ปล่อยให้ “ทีมสมคิด” ต้อง “รับเผือกร้อน”
ทั้งการเข้าร่วม-ไม่ร่วมหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) การเปิดเจรจาการค้าเสรีไทย-อียู
ขณะที่ทีมเศรษฐกิจภูมิใจไทย จ้องรื้อ-ร่างเมกะโปรเจกต์ใหม่ โครงการลงทุนขนาดใหญ่ “ติดหล่ม” เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง 3 สนามบิน โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน
“ทีมสมคิด” ที่มีกระทรวงการคลัง เป็น “หัวรถจักร” จึง “รับบทหนัก” ตั้งรับเศรษฐกิจขาลง-กู้ชีพรัฐมนตรีในสังกัด
โดย “อุตตม สาวนายน” รมว.คลัง เตรียมนำมาตรการ “พยุงท่องเที่ยว” และการเพิ่มมู้ดจับจ่ายผ่านโครงการ “ชิม ช้อป ใช้ เฟส 4” ในการประชุมคณะรัฐมนตรี-หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เมื่อทีมประชาธิปัตย์-ทีมภูมิใจไทย “เล่นไม่เข้าขา” ทีมสมคิด จึงตกเป็น “เป้าใหญ่” ในทีมเศรษฐกิจที่จะถูกปรับออก-ขยับโควตาภายในพรรคพลังประชารัฐ
ไม่ให้เกิด “แรงกระเพื่อม” ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ หรือ เกิดน้อยที่สุด.