“บิ๊กตู่”ลั่นก้าวข้าม”ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”นานแล้ว

สถาบันพระปกเกล้าสำรวจความนิยมของ “นายกฯในดวงใจ” พบว่า “ทักษิณ” ยังครองใจอันดับ 1
สถาบันพระปกเกล้าเผยแพร่แบบสำรวจความคิดเห็นประชาชน ปี 2560 ในโอกาสครบรอบ 19 ปีสถาบันพระปกเกล้า เกี่ยวกับความเชื่อถือของนายกรัฐมนตรี ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา
โดยผลสำรวจดังกล่าวทางสถาบันวิจัยและพัฒนาของสถาบันพระปกเกล้า ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และสำนักงานสถิติแห่งชาติ ร่วมมือกันจัดทำโดยสุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศ อายุ 18 ปีขึ้นไป รวม 33,420 คน เก็บข้อมูลวันที่ 24 เม.ย.-15 พ.ค.2560
นายวุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยแบบสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับผู้นำรัฐบาล ส่วนราชการ ศาลและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ แจกแจงความเชื่อถือของนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี 2545-2560 พบว่า นายกรัฐมนตรีที่ได้รับความเชื่อมั่นสูงสุดในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาคือ นายทักษิณ ชินวัตร ได้รับความนิยมถึง 92.9 % ในปี 2546 แต่ลดลงมาเหลือ 77.2% ในปี 2549 ก่อนมีการรัฐประหาร ขณะที่นายกฯ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในลำดับถัดมาคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ 87.5% ในปี 2558 ซึ่งเป็นหนึ่งปีหลังรัฐประหาร โดยความนิยมลดลงมาเล็กน้อยใน 2 ปีถัดมาที่ 84.6 % และ84.8 %
ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้รับความนิยมสูงสุดใน ปี 2553 คือ 61.6% ตกลงมาเหลือ 51.2 %ในปี 2554 ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2555 คือ 69.9 % แต่ตกลงมาเหลือ 63.4 % ในปี 2556-2557
ส่วนนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความนิยมต่ำสุดคือ นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 37.6 % ในปี 2551
สำหรับความเชื่อมั่นที่มีต่อทหาร อยู่ที่เฉลี่ย 77.98 % ในช่วง 15 ปี โดยมีความเชื่อมั่นต่ำสุดในปี 2550 สมัยพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกฯ และความเชื่อมั่นสูงสุดในปี 2558 สมัยที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนความเชื่อมั่นต่อตำรวจ เฉลี่ยอยู่ที่ 60.42 % โดยตกต่ำที่สุดในปี 2557 ช่วง คสช.ทำรัฐประหาร และสูงสุดในปี 2548 ช่วงที่นายทักษิณ เป็นนายกฯ
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงผลสำรวจของสถาบันพระปกเกล้าด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า “อะไรนะ ฉันไม่ได้ยินเลยวะ หูฉันเป็นอะไรวะนี่ ไหนคนถามมาถามใกล้ ๆ ซิ”
เมื่อถามย้ำว่าในรอบ 15 ปี ที่ผ่านมา นายทักษิณยังได้รับความนิยมอันดับ1 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็เป็นเรื่องของสื่อ คุณไปถามใครกันมา สำหรับผมก้าวพ้นไปนานแล้ว แต่สื่อพวกคุณหลายคนยังก้าวไม่พ้นอยู่ เสนอกันทุกวัน ก็เสนอกันไปซิ ก้าวไม่พ้นสักที ผมลืมไปแล้ว มันเป็นเรื่องของกฎหมายที่จะต้องดำเนินการ ทั้งนี้การก้าวพ้นคือการสร้างการรับรู้ เพราะฉะนั้นวิธีการที่จะก้าวให้พ้นคือ ลืม ๆ ไปแล้วให้กฎหมายเขาดำเนินการตามกระบวนการ แต่ถ้ามัวคิดถึงแต่ตรงนั้น ไม่ต้องทำอะไรประเทศไม่ต้องเดินหน้าไปไหน เข้าใจหรือไม่ว่าความผิดมันยังมีอยู่ สื่อต้องช่วยกันบอกว่าความผิดนั้นยังมีอยู่ สำหรับผมก็ได้อธิบายให้ต่างประเทศเขารับทราบแบบนี้ว่า มีความผิดอย่างไร แต่จะผิดหรือถูกขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม ถ้าหนีไปก่อนก็พิจารณาไม่ได้ คดีก็จะต้องติดค้างอยู่แบบนี้ เรื่องมีแค่นี้เอง รัฐบาลไม่ได้ต้องการไปไล่ล่าใครทั้งสิ้น เรื่องนี้มันมีความผิดเกิดขึ้นมาก่อน ก่อนที่ผมจะเข้ามาด้วย”
เมื่อถามว่า แล้ววันนี้รัฐบาล ก้าวข้ามชื่อ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างฉุนเฉียวว่า”มีแต่พวกคุณนั้นแหละที่ไม่ก้าวข้าม สำหรับผมก้าวข้ามทุกคนที่เป็นความขัดแย้ง และผมไม่ได้ก้าวข้ามหัวเขานะ ไม่ได้ไปดูถูก การก้าวข้ามของผมคือการไม่นึกถึงเขา ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ เพราะไม่ได้ทำอย่างที่เขาพูด ขอให้สื่อคิดแบบผมบ้างจะได้ตั้งคำถามที่เป็นประโยชน์มากกว่าเดิมหน่อย สื่อไม่เคยถามเลยว่าผมไปประชุม BRICES ที่ประเทศจีนมานั้นเหนื่อยหรือไม่ เขายอมรับประเทศไทยแค่ไหน สื่อไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เลย สื่อสนใจแต่เรื่องการก้าวข้าม หรือไม่ก้าวข้ามอยู่นั้นแหละ”
“ผมอยากรู้ว่าทำไมสื่อไม่เคยถามผมว่าเหนื่อยหรือไม่ ไปแล้วจะกลับมาหรือเปล่า มาถึงก็โดนสื่อบี้ กลับไปเรื่องเดิมแล้วก็มาถามว่าผมก้ามข้ามไหม พวกคุณนั้นแหละที่ไม่ก้าวข้ามเอง”.