“บิ๊กตู่” เด้ง “สีหนาท” ด้วยอำนาจปกติ!

มีสัญญาณที่ชัดเจนในการเลิกใช้อำนาจตามมาตรา 44 หรือ ม.44 แล้วหันมาใช้อำนาจตามกฎหมายปกติแทน
หลังจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา ทำให้การบังคับใช้ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวฉบับปี 2557 ที่ให้อำนาจกับ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ” เริ่มมีความพยายามในการใช้ ม. 44 ลดน้อย
ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เลือกใช้อำนาจนายกรัฐมนตรี ตามปกติ แทนการใช้อำนาจตามมาตรา 44 หรือ ม.44 ด้วยการลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี โยกย้ายพ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษาประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว
เอกสารดังกล่าวมีเนื้อหาระบุว่า “สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 120/2560 เรื่องให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องด้วยปปง.ได้มีคำสั่งที่ 265/2559 ลงวันที่ 28 เม.ย.พ.ศ.2559 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีปรากฏข่าวการกระทำความผิดเกี่ยวกับการยักยอกและเบียดบังเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ซึ่งกรณีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติราชการของปปง. เพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่ง ให้ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ ตำแหน่ง ที่ปรึกษาประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม”
เอกสาร ยังระบุอีกว่า “ในระหว่างการปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกรัฐมนตรี เพื่อปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานด้านการปฎิรูปนระบบราชการ ระบบการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และราชการอื่นตามที่มอบหมาย โดยให้ได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่มพิเศษและสิทธิประโยชน์อื่นใดไม่ต่ำกว่าที่ได้รับอยู่เดิม ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 3 พ.ค. พ.ศ.2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี”
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า คำสั่งสำนักนายกฯ ดังกล่าวเป็นไปตามการสอบสวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ที่ได้ดำเนินการสอบสวนมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน ทั้งนี้เหตุที่รัฐบาลไม่ใช่อำนาจตามมาตรา 44 ในการออกคำสั่งโยกย้าย เพราะเนื่องจากต้องการให้ผู้ถูกกล่าวหาได้มีโอกาสชี้แจงและดำเนินการสอบสวนต่อไป
ซึ่ง “พ.ต.อ.สีหนาท” เข้ารายงานตัวกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีทันที หลังมีคำสั่งให้มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นการชั่วคราว พร้อมระบุว่า ขณะนี้ไม่ได้มีการกล่าวหาอะไร เป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งโดยหลักการควรจะย้ายผมออกมา เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และพล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการปปง.คนปัจจุบันจะได้ดำเนินการไปได้ด้วยดี และเชื่อมั่นว่าท่านทำงานได้ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่มีคำสั่งออกมา และผมไม่ได้หนักใจอะไร เราปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต คดีนี้มีการยึดทรัพย์ไปแล้วจำนวนมากกว่า 7 พันล้านบาท เป็นการยึดทรัพย์ที่สุดซอย
“ยืนยันว่าทำงานเต็มที่ ยึดทรัพย์ก็สุดซอย ดังนั้น เป็นเรื่องของกระบวนการ ผมไม่มีความกังวลอะไร เพราะผมไม่ได้ถูกย้าย ยังเป็นที่ปรึกษาประจำสำนักงานปปง.อยู่ แต่มาช่วยราชการในตำแหน่งที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกฯ เป็นตำแหน่งที่ควรจะภาคภูมิใจ เพราะได้มีการมอบหมายงานทำงานเรื่องปฏิรูประบบราชการ ระบบการป้องกันและการปราบปรามการฟอกเงิน และภารกิจอื่นตามที่นายกฯมอบหมาย โดยอยู่ในกำกับดูแลของนายวิษณุ”.