ม.44 ยึดคืน สปก.สะดุ้ง! กันถ้วนหน้า
ประกาศคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 36/2559 เรื่อง “มาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดิน ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย”
สรุปด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย คือ เป็นคำสั่ง “ยึดคืน ที่ดิน สปก.4-01” ที่ครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมายคืนมาสู่อ้อมกอดของรัฐอีกครั้ง
สิ่งที่น่าสนใจคือ เนื้อหาของคำสั่งนี้ที่ระบุเหตุผลของการออกคำสั่งอย่างตรงไปตรงมาว่า
“เมื่อปี พ.ศ. 2536 คณะรัฐมนตรี ได้มีการส่งมอบพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่เสื่อมโทรมเพื่อนำพื้นที่ไปจัดให้กับเกษตรกรตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม แต่ในปัจจุบันพบว่ายังมีที่ดินที่ยังไม่ได้ทำการสำรวจรังวัดอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีผู้ถือครองที่ดินดังกล่าวอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งไม่ได้ให้ความร่วมมือในการปฏิรูปที่ดิน หรือแม้กระทั่งในบางรายได้คำพิพากษาสิ้นสุดแล้ว แต่การส่งมอบที่ดินคืนให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนำไปดำเนินการต่อไปนั้น ยังไม่ได้รับการกฏิบัติตามคำพิพากษา”
รายละเอียดของคำสั่ง มีเป้าหมาย 3 กลุ่ม คือ 1.ที่ดินที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่มีเนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป 2. ที่ดินที่จัดให้เกษตรกรแล้วและให้เกษตรกรสิ้นสิทธิ์เข้าทำประโยชน์และมีผู้เข้าครอบครองโดยบุคคลที่ไม่ใช่ผู้ได้รับการจัดที่ดินตั้งแต่ 100 ไร่ขึ้นไป และ 3. ที่ดินที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ส่งมอบให้ ส.ป.ก. เนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป โดยพื้นที่ข้อ 1 และข้อ 2 ให้เป็นไปตามที่ ส.ป.ก.ประกาศกำหนดนั้น
“วิษณุ เครือง่าม” รองนายกรัฐมนตรี บอกว่า คำสั่งฉบับนี้มีเป้าหมายหลัก คือต้องเอาพื้นที่ สปก.ที่ถูกบุกรุกกลับมาก่อนและให้รีบจัดสรรให้คนยากคนจน ส่วนจะจัดการทางกฎหมายกับผู้ครอบครองที่ไม่มีสิทธิ์ หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่รู้เห็นเป็นใจก็เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบกันต่อไป
และภารกิจนี้ “บิ๊กตู่” ไฟเขียวให้เพื่อนรัก “บิ๊กฉัตร – พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ” เดินหน้าเต็มสูบและจัดการเต็มที่
“ผมได้สั่ง ส.ป.ก.เตรียมแผนงานตามคำสั่ง หัวหน้าคสช.ที่ออกม.44 ให้ปฎิบัติแล้วต้องมีแผนงาน ระยะเวลาชัดเจนคาดหวังจะสำเร็จ ภายใน129 วัน อย่างแน่นอนเพราะเป็นความคาดหวังให้เกิดผลจริงซึ่งที่ผ่านมา 30 กว่าปีไม่ทำอะไรเพราะมีอิทธิพลไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ที่สำคัญเหนืออื่นใด นายกรัฐมนตรี มีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากไร้ไม่มีที่ทำกิน ได้เข้าทำเกษตร ตามเจตนารยม์ของกฎหมายปฎิรูปที่ดินเพื่อคนจนเกิดประโยชน์กับภาคเกษตร มีการเกษตรกรตัวจริงเข้าทำกิน”
ถามกันแบบตรงไปตรงมาแบบไม่ต้องตีความคำว่า “อิทธิพล” ตามที่บิ๊กฉัตรพาดพิงถึงว่า “คนระดับไหน” ที่จะเรียกว่ามีอิทธิพลมากพอที่จะถือครองที่ดินสปก.ได้มากถึงหลัก 100 -500 ไร่ ขึ้นไป
เพราะมีหรือคนยากคนจนจะมีถึงถ้าไม่ใช่ “เศรษฐี” “คนมีอำนาจ” และ “นักการเมือง” และมีหรือที่จู่ๆ เอกสารการครอบครองจะถูกต้อง ถ้าไม่ได้รับความสะดวกจาก “ข้าราชการ (ที่เกี่ยวข้อง)”
ภารกิจนี้ สำนักงาน ส.ป.ก. จะเป็นหน่วยงานที่บิ๊กฉัตรต้องใช้งานอย่างหนักที่ยุคนี้ มี “นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส นั่งเป็นเลขาธิการสำนักงาน ส.ป.ก. และพิกัดแรกที่ ส.ป.ก. โฟกัส เพื่อเรียกคืนอยู่ในพื้นที่ 25 จังหวัด อาทิ กำแพงเพชร ตาก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุดรธานี กาญจนบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี ลพบุรี สระแก้ว สระบุรี กระบี่ ชุมพร ยะลา สุราษฎร์ธานี
เรียกใครเข้าข่ายในพื้นที่ “25 จังหวัด” นี้ มีสะดุ้งกันเป็นแถบ.