“เทียร์2” กู้หน้า+เพิ่มแต้ม “รัฐบาล”
ข่าวดีประเทศไทย ที่เฮสนั่น! กันทำเนียบรัฐบาลแทบแตก เมื่อกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาประกาศผลการจัดอันดับรายงานการค้ามนุษย์ (ทริปรีพอร์ต) ของประเทศไทย
โดยปรับระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ของประเทศไทยจากระดับเทียร์3 (ต่ำสุด) ในบัญชีประเทศที่ถูกจับตามองมากที่สุดมาเป็นระดับเทียร์ 2 เมื่อช่วงคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดย “กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา” ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า “รายงานฉบับนี้ได้รวมคำแนะนำต่างๆ ที่ตรงประเด็นการค้ามนุษย์ในไทยที่สหรัฐฯ ที่ได้เพิ่มความพยายามดำเนินการสืบสวนคดีการค้ามนุษย์เพื่อธุรกิจทางเพศ และคดีที่ต้องสงสัยว่ามีการบังคับใช้แรงงาน รวมถึงได้ดำเนินคดีและพิพากษาโทษนักค้ามนุษย์หลายร้อยคน รายงานฉบับนี้จึงเรียกร้องให้ไทยดำเนินการต่อไป จนถึงการออกกฎระเบียบใหม่ๆ ในการให้สถานภาพทางกฎหมายและใบอนุญาตทำงานแก่เหยื่อการค้ามนุษย์ และขอให้รัฐบาลไทยดำเนินการให้ก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมตามกรอบคำแนะนำในรายงานการค้ามนุษย์ประจำปี พ.ศ.2559 ”
งานนี้ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลไทยที่ถือเป็นผลงาน “ชิ้นโบว์แดง” กอบกู้หน้าตา “รัฐบาลทหาร” ในช่วงคะแนนความนิยมกำลังตก จากความพยายามเดินหน้าลุยแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการกวาดล้างระบบเครือข่ายค้ามนุษย์และการทำประมงโดยผิดกฎหมาย
ส่งผลให้บรรดา “บิ๊กรัฐบาล” หลายคนยิ้มร่า ปลื้มปริ่มกับผลงานที่ทุ่มเทมาตลอด โดยเฉพาะ “หัวหน้าใหญ่-บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
“วันนี้รัฐบาลเอาปัญหาทั้งหมดมาคลี่คลาย เพื่อให้เกิดการบูรณาการและมีผลสัมฤทธิ์อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ถือเป็นเรื่องที่ต้องปฏิรูปอย่างยิ่งใหญ่ เพราะที่ผ่านมาไม่เกิดผลและปัญหาการประมงที่ผิดกฎหมายมีหลายอย่างที่ต้องแก้ไขและเราได้แก้ไขมาตลอด ทั้งเรื่องเจ้าหน้าที่ กฎหมาย การดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้สามารถควบคุมได้เกือบ 100% และมีการลงโทษ ซึ่งขอให้เข้าใจว่าที่ผมทำทั้งหมดไม่ได้มีอะไรกับใคร”
ขณะที่ “พี่ใหญ่-บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ก็เก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่ ให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดีว่า “ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกัน เจ้าหน้าที่ทั้งภาคราชการและเอกชน แต่เราจะไม่หยุดแค่นี้ เพราะเราอยู่ในระดับเทียร์ 2 คือ เฝ้าระวัง ต้องทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ให้เป็นสากล รัฐบาลไม่ทำเพื่อหวังอะไรแต่ทำเพื่อประเทศชาติ จากนี้เราจะทำไปเรื่อยๆ ไม่หยุดและเร่งทำในทุกเรื่อง อะไรที่ไม่ครบ เราต้องทำให้ดีขึ้น เราต้องดำเนินการช่วยกันยืนยันเราจะทำให้ดี”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปิดเกมรุกไล่ขบวนการค้ามนุษย์ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการใช้มาตรา 44 ปราบเจ้าหน้าที่รัฐ นายทุน ผู้มีอิทธิพล นักการเมืองท้องถิ่น และนายทหารนอกแถวลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย ใช้แรงโหดในภาคอุตสาหกรรมการประมง ถือเป็นการแก้ปัญหาที่มาถูกทาง
อย่างไรก็ตาม ผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินคณะที่ 5 ที่มี “บิ๊กป้อม” นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ยังมีการรายงานความคืบหน้า การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู)
“ระหว่างวันที่ 13 มิ.ย.-5 ก.ค. ผู้แทนจากองค์การสหประชาชาติ (อียู) จะเดินทางมาประเทศไทย เพื่อตรวจสอบและพูดคุยกับตัวแทนไทย โดยเดินทางมา 3 คณะ คือ 1. เจ้าหน้าที่เทคนิค เพื่อดูเรื่องการแจ้งศูนย์การเข้าและออกของเรือ รวมถึงดูในเรื่องการนำเจ้าสัตว์น้ำ 2. หารือเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค ดูมาตรฐานกฎหมาย การบังคับใช้และการลงโทษ และ 3. การหารือเจ้าหน้าที่เทคนิคระดับสูง แลกเปลี่ยนข้อมูล พูดคุย และประเมินในระยะสุดท้าย ซึ่งผลการประเมินไอยูยูขึ้นอยู่กับการประชุมทั้ง 3 คณะด้วย”
แต่ที่แน่ๆ ในเหลี่ยมเข้าทาง “เพื่อไทย” รีบดาหน้าออกมาดับเบิ้ลบลัฟกันทันที โดย “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล” อดีตรมว.ต่างประเทศและแกนนำพรรคเพื่อไทย
“ถือเป็นการกลับมาอยู่ในระดับเดิมในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งไทยก็เคยถูกจัดให้อยู่ในระดับนี้มาติดต่อกันถึง 2 ปี วันนี้ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับรัฐบาลที่นำพาประเทศกลับมาอยู่ที่เดิมเหมือนในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ และอยากเตือนรัฐบาลว่าขออย่าได้มัวแต่หลงดีใจที่เขาปรับระดับขึ้นมาให้ เพราะสหรัฐฯ ยังคงเฝ้าจับตามองอยู่”
งานนี้กลบกระแสด้านลบ “รัฐบาล-คสช.” ได้มิตร เพราะความดี ความชอบจากแต้ม “เทียร์ 3” แท้ๆ ที่มาช่วยกู้หน้าได้ทัน.