ลือหรือจริง เกม “สปท.” สลายขั้วดัน2บิ๊ก นั่งนายกฯ
ถือเป็นเป็นภารกิจหลักครั้งแรกและ “ครั้งสำคัญ” ของ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
นำทีมโดย “อลงกรณ์ พลบุตร” รองประธานสปท.คนที่ 1 พร้อมด้วย “กษิต ภิรมย์” และ “พ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย” สมาชิกสปท.
ทำภารกิจเดินสายพบพรรคการเมือง เพื่อชี้แจงความคืบหน้าในการปฏิรูปประเทศและรับฟังความคิดเห็นการปฏิรูปประเทศจากพรรคการเมืองในวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ขณะที่การเดินสายชี้แจงเริ่มต้นที่พรรคการเมืองเก่าแก่ ค่ายแม่พระธรณีบีบมวยผม “พรรคประชาธิปัตย์” เป็นที่รู้กันดีว่า ติดตามการทำงานปฏิรูปของสปท. และห่วงใยเรื่องเรื่องการปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคฯ
“ผมขอฝากข้อห่วงใยใน 2 ประการ คือ 1.ทุกอย่างที่ทำอยู่ทั้งหมดไม่มีอะไรใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ การปฏิรูปอะไรก็ตามสุดท้ายต้องส่งไม้ต่อให้กับคณะกรรมการที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เช่น การปฏิรูปตำรวจ 2. ถ้าการเมืองยังไม่ดีขึ้นการปฏิรูปทุกอย่างจะเป็นไปได้ยาก จึงห่วงว่าอาจเกิดความขัดแย้งตามมา เพราะการปฏิรูปพรรคการเมืองไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ถ้าพรรคการเมืองไม่สามารถประชุมได้ และถ้าอยากให้มีการปฏิรูปพรรคผู้มีอำนาจต้องให้พรรคประชุม ขอแค่ประชุมปฏิรูปองค์ตัวเอง นี่จะเป็นจุดทดสอบว่า เพราะถึงอย่างไรบ้านเมืองเราหนีไม่พ้นความเป็นประชาธิปไตย หนีไม่พ้นระบบตัวแทนที่ต้องมาจากประชาชนอย่างแท้จริง”
จากนั้นทีมสปท. ก็เดินสายรับฟังข้อเสนอแนะการปฏิรูปจาก “แกนนำเพื่อไทย” อาทิ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี “พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์” รักษาการหัวหน้าพรรคฯ “ภูมิธรรม เวชยชัย” เลขาธิการพรรคฯ โดยการรับฟังความคิดเห็น และการชี้แจงความคืบหน้าเรื่องการปฏิรูป เป็นการพูดคุยแบบลับ
“อดีตนายกฯ สมชาย” กล่าวต้อนรับว่า “ทางพรรคยินดีต้อนรับผู้ใหญ่ทุกคน ถือเป็นเกียรติที่ท่านได้มาเยี่ยมพรรคเพื่อไทยในวันนี้และยินดี เพราะที่ผ่านมาทางพรรคไม่ได้มีโอกาสนั่งประชุมพร้อมหน้ามานาน เมื่อ สปท.มาถือว่ายินดีได้พบหน้ากัน”
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เพราะมีข่าวลือเล็ดรอดออกมาจากฝ่ายนิติบัญญัติว่า การเดินสายพบปะพรรคการเมืองเป็นเพียงการ “โยนหินถามทาง” ไม่ใช่การชี้แจงการปฏิรูปประเทศเพียงอย่างเดียว
หากแต่เป็นการเดินเกมสายล็อบบี้ของเสียงพรรคการเมืองสนับสนุน “2 บิ๊กใหญ่” ในรัฐบาลทหาร นั่งเก้าอี้นายกฯรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ส่งผลให้ “สภาฯ สูง” หนาวๆ ร้อนๆ กลับ “กระแสข่าวลือ” ที่ออกมาเพราะกลายเป็นเรื่อง “ร้อน” ลุกลามใหญ่โตเป็นวงกว้าง ทำให้หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม
“แหล่งข่าวระดับสูงในสปท. เปิดเผยว่า การเดินสายเพื่อเข้าพูดคุยกับ 2 พรรคการเมืองใหญ่ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ 2 พรรคใหญ่ สนับสนุนหลังการเลือกตั้งให้ 2 บิ๊กทหารในคสช. คนใดคนหนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องมีการนำเรื่องนิรโทษกรรมมาใช้กับทุกพรรคการเมือง และเกิดรัฐบาลแห่งชาติ”
จนทำให้ “เสี่ยจ้อน-อลงกรณ์” รองประธานสปท.คนที่ 1 ปรี๊ดแตก!! ออกมาเคลียร์ด่วนชัดๆ ว่า
“ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นข่าวโคมลอยกระทบต่อการทำงานของ สปท.และความเชื่อมั่นการทำงานด้านการปฏิรูปประเทศ การที่สปท.ไปพบพรรคการเมือง เป็นหนึ่งในกิจกรรมสร้างความเข้าใจและความร่วมมือการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ที่วางแผนกันมาไม่น้อยกว่า 1 เดือน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำในลักษณะการล็อบบี้ตามที่มีข่าวปล่อยออกมา สปท.ขอยืนยันในความเป็นกลางทางการเมือง หากไปทำให้เกิดความเคลือบแคลงจะไม่ได้รับความเชื่อถือ”
สำทับด้วยเสียงยืนยันของสมาชิกสปท. “สมพงษ์ สระกระวี” ว่า “เรื่องดังกล่าวเป็นไปไม่ได้ เป็นเรื่องการตัดสินใจของแต่ล่ะพรรคการเมืองที่ยังไม่รู้ว่าจะส่งใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี การจะมาเตรียมการตั้งแต่ต้นตอนนี้ทั้งที่แต่ละพรรคยังไม่รู้จะอยู่รอดอย่างไร และยังไม่รู้ว่าหัวหน้าพรรคตัวจริงคือใครนั้นเป็นเรื่องแปลก รวมถึงที่สำคัญสปท.ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะทำเรื่องดังกล่าวด้วย”
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า ช่วงระยะหลังการทำงานของสปท.ถูกวิพากษ์วิจารณ์โจมตีอย่างหนัก ถึงการทำงานปฏิรูปประเทศที่ไม่มีความคืบหน้าเข้าข่ายล้มเหลวในหลายด้าน รวมถึงผลงานหลายอย่างยังไม่เข้ารูปเข้าลอยเตะต้องไม่ได้จริง จึงเป็นที่จับตามองของสังคมว่า
หากเดินเกมโยนหินถามทางตามนี้จริงคงต้องวัดใจ “2บิ๊ก” ที่ว่าจะรับลูกเล่นด้วยหรือปฏิเสธอย่างไร.