ประวัติ-วิสัยทัศน์ ดร.เชน ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ คาดนั่งแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย
ประวัติ-วิสัยทัศน์ ดร.เชน ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ผู้ถูกคาดการณ์ว่าจะนั่งแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย
พรรคเพื่อไทย เตรียมเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี วันที่ 16 ธันวาคมนี้ ว่ากันว่า หนึ่งในนั้นคือ ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ นักวิจัยด้านสมองและวิศวกรรมชีวการแพทย์ บุตรชายคนโตของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือเจ๊แดง (น้องสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี)
ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ เกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2522 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล และเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์

การศึกษา
สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระดับปริญญาโทและระดับปริญญาเอก คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัยเทกซัส อาร์ลิงตัน และทำดุษฎีนิพนธ์เรื่องการใช้สัญญาณสมองมาช่วยเหลือผู้พิการ
การเมือง
พ.ศ. 2568 ดร.ยศชนัน ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (ด้านบริหารจัดการ & บุคคล) จากคณะรัฐมนตรี
ดร.ยศชนัน เคยลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต 3 ในการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2557 แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
วิสัยทัศน์
เมื่อปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ได้ไปปรากฎตัว ในการปาฐกถาพิเศษ โครงการ Pheu Thai Young Professionals Program (YPP) รุ่นที่ 2 ของพรรคเพื่อไทย
ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ปาฐกถาพิเศ หัวข้อ “From Research to Real World Impact” แสดงวิสัยทัศน์ว่า คนไทยมีศักยภาพเปลี่ยนงานวิจัยให้เป็นคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคนได้

ศ.ดร.ยศชนัน บอกว่าด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี ในการทำวิจัยเพื่อคนตัวเล็กและคนพิการ ย้ำว่า “สิ่งที่ AI ไม่เก่ง คือสิ่งที่มนุษย์เก่ง” และจุดแข็งของไทยคือการใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหาจริงของมนุษย์
โดยยกตัวอย่างงานวิจัย Brain-Computer Interface (BCI) ที่ช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตกลับมาปั่นจักรยานได้อีกครั้ง โดยชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีไม่ใช่แค่เรื่องฟังก์ชัน แต่คือการคืน “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” ให้เขากลับมารู้สึกเป็นมนุษย์เต็มคน พร้อมผลักดันไทยสู่การเป็น “ฮับอวัยวะเทียมและไบโอเทค” เปลี่ยนจากครัวโลกสู่ห้องผ่าตัดของโลก
นอกจากนี้ ดร.เชน ได้ฝากโจทย์ใหญ่ ว่า “เราจะทำให้คนในประเทศนี้มีความสุขขึ้น และไม่มีใครต้องถูกทิ้งเพียงเพราะเขาพิการ หรือจน ได้อย่างไร”


