พรรคประชาชน เสนอเร่งจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม ตั้งกองทุนช่วยประชาชนดีดบ้าน

พรรคประชาชน ชงข้อเสนอจัดการน้ำท่วมภาคกลาง-เหนือล่าง แนะทบทวนแนวทางระบายน้ำ “ในทางก่อนในทุ่ง” ชี้เป็นต้นเหตุหลายพื้นที่ถูกน้ำท่วมสูงขึ้น-นานขึ้น เสนอเร่งจ่ายเงินเยียวยาตั้งแต่น้ำท่วม-ตั้งกองทุนช่วยประชาชนดีดบ้าน
วันที่ 8 ตุลาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พระนครศรีอยุธยา เขต 1 พรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าวเรียกร้องการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยและการบริหารจัดการน้ำท่วมปี 2568 จากสถานการณ์อุทกภัยที่กำลังเกิดขึ้นในหลายจังหวัดพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างในปัจจุบัน

นายณัฐพงษ์ระบุว่าจากการติดตามจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พบว่าสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนในบริเวณภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง มากกว่าในปีก่อนๆ ราว 10% ประกอบกับนโยบายในการจัดการน้ำของหน่วยงานอย่าง สทนช. ใช้วิธีการระบาย “ในทางก่อนในทุ่ง” คือใช้การปล่อยน้ำเข้าทุ่งเป็นลำดับสุดท้าย ใช้วิธีการระบายไปตามคูคลองต่างๆ ก่อน ทำให้ประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำถูกน้ำท่วมมากกว่าปีก่อนๆ
เช่น ที่บริเวณวัดบันไดช้าง ซึ่งท่วมมาก่อนหน้านี้ 2 เดือนแล้ว สะท้อนให้เห็นว่าการบริหารจัดการในการจ่ายเงินเยียวยาเป็นสิ่งที่ต้องลงไปดูรายละเอียดในรายพื้นที่ ให้ “ไม่ช้า ไม่จม ไม่ซ้ำรอย” ทำให้ไม่ช้า เช่นบางพื้นที่ที่ท่วมมากว่า 2 เดือนแล้ว กว่าเงินจะจ่ายถึงประชาชนต่างก็รู้สึกว่าช้าไปแล้ว ขณะที่เงินเยียวยา 9,000 บาททั่วไป ที่จ่ายจากกรณีถูกน้ำท่วมปีที่แล้ว กว่าที่ประชาชนจะได้รับสถานการณ์ก็ผ่านไปแล้ว นอกจากนี้ ยังมีคำถามจากประชาชนว่าบางพื้นที่ท่วมนานกว่าพื้นที่อื่น ควรจะได้รับ 9,000 บาทเหมือนคนอื่น หรือควรมีหลักเกณฑ์ได้รับการเยียวยาตามจำนวนวันที่ท่วมหรือไม่
นายณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่าในส่วนของ “ไม่จม” ประชาชนหลายคนยังสะท้อนว่าเงินเยียวยา 9,000 บาทไม่พอ เมื่อ สทนช. เลือกที่จะใช้วิธีการระบายน้ำในทางก่อนในทุ่ง จะทำอย่างไรให้ประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำสามารถปรับตัวและได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมน้อยที่สุด เช่น การตั้งกองทุนดีดบ้าน จะเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ยั่งยืนกว่าหรือไม่
และสุดท้ายทำอย่างไรให้ “ไม่ซ้ำรอย” ทั้งในเรื่องการแจ้งเตือน ทำอย่างไรให้ประชาชนเก็บของและเก็บเกี่ยวได้ทันก่อนน้ำจะมา
นอกจากนี้ตนอยากฝากถึงรัฐบาลว่าขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่หนี้สาธารณะเต็มเพดาน พื้นที่ทางการคลังน้อย สิ่งที่รัฐบาลต้องการตอนนี้คือการกระตุ้นเศรษฐกิจก็จริง แต่สิ่งที่พวกตนอภิปรายในสภามาโดยตลอด คือการใช้งบประมาณควรเป็นการใช้ที่ประชาชนได้ประโยชน์ ขณะเดียวกันควรเป็นการลงทุนที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ในระยะยาวมากกว่าระยะสั้น หากรัฐบาลจัดสรรงบประมาณบางส่วนแบบให้เปล่าไปยังประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม ประชาชนโดยส่วนใหญ่ก็จะต้องเอาเงินไปเยียวยาผลกระทบต่อชีวิต บ้าน และทรัพย์สินก่อน
ดังนั้น รัฐบาลควรพิจารณาจัดสรรงบประมาณที่ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า แทนที่จะให้เงินแบบให้เปล่า ถ้าสามารถจัดสรรบางส่วนมาช่วยในการดีดบ้าน จะเกิดการจ้างงาน หากรัฐบาลบริหารจัดการอย่างเป็นระบบดีพอ แบ่งเงินงบประมาณบางส่วน มีการประกาศมาเป็นนโยบายรัฐบาล ก็จะสามารถช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้จริง และเป็นการจ่ายเงินลงทุนที่แก้ไขปัญหาระยะยาวให้ประชาชนได้เช่นเดียวกัน
ในส่วนของทวิวงศ์ ระบุว่าที่ผ่านมาการบริหารจัดการน้ำเป็นลักษณะในทางก่อนในทุ่ง ปัจจุบัน สทนช. และกรมชลประทานเลือกที่จะระบายน้ำในทางระบายน้ำก่อนอย่างเดียว ใช้ทุ่งรับน้ำเป็นขั้นตอนสุดท้าย ทำให้พื้นที่บ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ทำให้น้ำท่วมสูงขึ้นและนานขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ประชาชนมีความเดือดร้อนมากขึ้นในทุกปี
พรรคประชาชนจึงเสนอให้มีการจัดสรรน้ำไปในทิศทางอื่นด้วย โดยระบายน้ำไปในทางตะวันออกมากขี้น เพราะในทางตะวันตกอย่างในลุ่มน้ำท่าจีนขณะนี้ได้รับผลกระทบที่หนักมากแล้ว ได้รับการระบายน้ำที่ค่อนข้างเต็มความจุและได้รับความเดือดร้อนมาตลอดช่วงที่ผ่านมา
นายทวิวงศ์ กล่าวต่อไปว่าในระยะถัดมา พรรคประชาชนเสนอให้มีการตัดยอดน้ำตั้งแต่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา ที่จะสามารถระบายน้ำในทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกได้ และควรอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเร่งโครงการขนาดใหญ่ อย่างโครงการชัยนาท-ป่าสัก ที่จะมีการผันน้ำออกไปทางทิศตะวันออกมากขึ้น รวมถึงขอให้มีการจัดทำกองทุนในการดีดบ้าน (ยกระดับบ้าน) ที่จะช่วยเหลือประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ ที่มีแต่จะถูกน้ำท่วมสูงขึ้นและนานขึ้น การดีดบ้านมีต้นทุนที่สูงมากกว่าที่ประชาชนสามารถรับไหว จึงควรได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลโดยด่วน
ทั้งนี้ ตนได้รวบรวมข้อเสนอของประชาชนมา 3 ประเด็นหลัก เสนอไปถึงรัฐบาลทั้งหมด ดังนี้
1) การทบทวนแผนการระบายน้ำ โดยลดความจำเป็นในการเพิ่มอัตราการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาลงมาสู่พื้นที่ลุ่มต่ำภาคกลาง โดยเฉพาะพื้นที่อยุธยา-อ่างทอง โดยเสนอให้มีการตัดยอดน้ำตั้งแต่เหนือเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นไป
2) การปรับกรอบเวลาการชดเชยเยียวยา ปัจจุบันรอให้น้ำท่วมเสร็จก่อนจึงจะมีการชดเชยเยียวยา พรรคประชาชนเสนอให้มีการชดเชยเยียวยาให้ประชาชนในทุกเดือนที่ถูกน้ำท่วม เพราะในช่วงที่ถูกน้ำท่วมประชาชนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากมาย การชดเชยเยียวยาจำเป็นต้องเป็นการชดเชยค่าครองชีพที่เสียไปของประชาชนในช่วงที่ถูกน้ำท่วม
3) การจัดตั้งกองทุนเพื่อการดีดบ้าน รวมถึงกองทุนในการยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคให้ประชาชน ต้องมีศูนย์อำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพ สามารถใช้ได้ทั้งในช่วงที่น้ำท่วมและในช่วงที่ไม่มีน้ำ เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ให้ประชาชนเข้าขอสิ่งอำนวยความสะดวกได้ เช่น เครื่องผลิตน้ำดื่ม พื้นที่เก็บอุปกรณ์ช่วยเหลือชีวิต หรือกระทั่งอุปกรณ์ในการทำมาหากินของประชาชน เนื่องจากปัจจุบันประชาชนต้องตั้งเต็นท์อยู่กันบนนถนน ที่สำคัญ ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ พวกตนจะเสนอให้มีการพัฒนาและปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ เพื่อเพิ่มหมวดว่าด้วยเรื่องกองทุนเข้าไป เนื่องจาก พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ ในปัจจุบันยังไม่มีกลไกดังกล่าวรองรับ