“อนุทิน” ลั่น MOU 43-44 หากไม่เกิดประโยชน์กับไทย เสนอ ครม. ยกเลิกได้ทันที

“อนุทิน” รอดูผล กมธ. ศึกษา MOU 43-44 ย้ำหากไทยไม่เกิดประโยชน์ เสนอ ครม. ยกเลิกได้ทันที
วันที่ 30 ก.ย.68 ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงข้อเสนอของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่าเตรียมทำประชามติพ่วงในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า โดยใช้บัตรเลือกตั้ง 4 ใบ คือ ส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และประชามติยกเลิก MOU ไทย–กัมพูชา ว่า เรื่องนี้จำเป็นต้องเร่งทำความเข้าใจให้ประชาชนได้รับทราบสิทธิและหน้าที่อย่างชัดเจน แม้การลงประชามติพร้อมเลือกตั้งจะใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่เป็นสิ่งที่จำเป็น และไม่ควรดูถูกภูมิปัญญาของประชาชน เชื่อว่าหากมีการประชาสัมพันธ์อย่างเหมาะสม ประชาชนจะเข้าใจและสามารถใช้สิทธิได้ถูกต้อง

ส่วนประเด็น MOU ไทย–กัมพูชา ปี 2543–2544 นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญกำลังศึกษาอยู่ หากผลออกมาชี้ว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย รัฐบาลก็สามารถยกเลิกได้โดยมติคณะรัฐมนตรี เพราะอำนาจอยู่ที่ ครม. แต่ที่มีข้อเสนอให้นำเข้าสู่ประชามติ ก็เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมและเป็นการให้เกียรติประชาชน
“ถ้าผลการศึกษาออกมาแล้วไม่เกิดประโยชน์ ไม่ได้ทำให้ประเทศไทยได้เปรียบอะไรเลย เราก็ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ แต่หากยังมีประโยชน์ก็เก็บไว้ต่อไปได้ ผมย้ำว่าถ้าถามผม ถ้าไม่มีประโยชน์ ผมเลิกไปแล้ว” นายกฯ กล่าว
พร้อมกันนี้ นายอนุทินยังอธิบายว่า MOU โดยทั่วไปไม่ได้มีผลผูกพันทางกฎหมายอย่างเข้มงวด หากกำหนดเวลาไว้แล้วไม่บรรลุ ก็ถือว่าสิ้นสุดลงไปเอง แต่ MOU 43-44 ต้องตรวจสอบว่ามีข้อกำหนดการสิ้นสุดหรือไม่ เพราะผ่านมา 20 ปีก็ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ ดังนั้นหากไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ก็ควรยกเลิก
นายกฯ ย้ำว่าขณะนี้ต้องรอผลการศึกษาของ กมธ. ก่อน ส่วนฝ่ายกฎหมายและฝ่ายความมั่นคงก็จะต้องมีส่วนในการพิจารณา เพื่อให้การตัดสินใจเรื่องนี้เกิดขึ้นบนพื้นฐานข้อเท็จจริงและผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก