“เศรษฐา”เสนอ เชิดชูนักกีฬา เทียบชั้นศิลปินแห่งชาติ

‘เศรษฐา’ ชูสู่ไอดอลแห่งวงการกีฬาไทยบนเวทีเกียรติยศ เทียบชั้นศิลปินแห่งชาติในวงการศิลปะ
(10 ก.ค.ค) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ Rethinking Thai Sports in Disruptive Era ภายในงาน SPLASH – Soft Power Forum 2025 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร่วมกับเทนนิส พาณิภัค นักกีฬาเทควันโด 2 เหรียญทองโอลิมปิค และบัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยระดับตำนาน
นายเศรษฐา กล่าวว่า จาก 20 ปีที่ผ่านมา กีฬาไทยแม้จะเป็นสิ่งที่อยู่คู่คนไทยมานาน และในปีนี้ถือเป็นยุคทองของการกีฬาเชิงพาณิชย์ การที่รัฐบาลที่มีทั้งกองทุนพัฒนากีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมให้การสนับสนุนทุกรูปแบบทั้งในแง่ของวิทยาศาสตร์การกีฬา การต่อรองผลประโยชน์ รวมถึงการให้ทุนสนับสนุนงบประมาณแก่สมาคมกีฬาต่างๆ

นายเศรษฐา กล่าวว่า เสนอการผลักดันให้นักกีฬาไทยได้รับการยกย่องอย่างเป็นระบบ เสมือนศิลปินแห่งชาติในวงการศิลปะ เพื่อให้นักกีฬาเหล่านี้ได้มีสิทธิพิเศษ ได้รับเกียรติยศมาสู่วงศ์ตระกูล ในฐานะที่พวกเขาได้สร้างคุณประโยชน์ ชื่อเสียงและความสำเร็จให้แก่ประเทศมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทนนิส พาณิภัค นักกีฬาเทควันโดได้เหรียญทองโอลิมปิคสองเหรียญ และบัวขาว ตำนานนักมวยไปเผยแพร่แม่ไม้มวยไทยที่ต่างประเทศ
“กีฬาไทยมีจุดอ่อนที่เด่นชัด คือ ต้องเพิ่มการเก็บสถิติทุกรูปแบบเพื่อเป็นฐานข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นสถิติในรอบการฝึกซ้อม หรือการสถิติของการติดทีมชาติ เสมือนนักฟุตบอลของอังกฤษที่มีเก็บสถิติการติดทีมชาติไว้อย่างชัดเจน และควรมีรางวัลสำหรับการติดทีมชาติครั้งแรกเพื่อสร้างขวัญกำลังใจต่อการทุ่มเทแรงกายแรงใจ”
ก่อนจบการเสวนา นายเศรษฐา ได้กล่าวสรุปทิ้งท้ายไว้ว่า “เชื่อว่าความมีวินัยและความอดทนนั้นเป็นสารตั้งต้นของนักกีฬา และเมื่อพวกเขาเหล่านี้ทำงานหนักประสบความสำเร็จแล้ว การให้รางวัลที่เหมาะสมแก่พวกเขาควรจะต้องตามมา เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักกีฬารุ่นใหม่ๆ ที่กำลังเติบโตในอนาคต”