สุดารัตน์ ติง จัดงบลงทุนลด 7.3% หนี้สาธารณะจ่อทะลุ 13 ล้านล้าน

พรรคไทยสร้างไทย วิจารณ์รัฐบาลจัดงบประมาณ ปี 2569
วันที่ 30 พ.ค.68 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แสดงความกังวลต่อการจัดทำงบประมาณปี 2569 ของรัฐบาล ที่แม้ตั้งวงเงินสูงถึง 3.78 ล้านล้านบาท แต่กลับลดงบลงทุนลงถึง 7.3% ทั้งที่ปีนี้ควรเป็นปีแห่งการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างจริงจัง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของโลกและยกระดับขีดความสามารถของประเทศ

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การลดงบลงทุนในช่วงเวลานี้สะท้อนถึงการบริหารงบที่ขาดวิสัยทัศน์ รัฐบาลควรใช้การลงทุนภาครัฐเป็นหัวใจหลักของการฟื้นเศรษฐกิจ สร้างงาน กระจายรายได้ และยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ใช่เดินหมากระยะสั้นที่ไร้ทิศทาง งบกลางที่ตั้งไว้สูงถึง 632,000 ล้านบาท โดยอยู่ภายใต้อำนาจของนายกรัฐมนตรีเพียงผู้เดียว ควรถูกใช้ด้วยความโปร่งใส รอบคอบ และเปิดให้สังคมตรวจสอบ โดยเฉพาะงบ 157,000 ล้านบาทที่ถูกโยกมาจากโครงการแจกเงินหมื่น และมีเวลาเสนอแผนงานแค่ 3 วัน เสี่ยงเกิดการทุจริตแบบ Fast Track
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ รัฐบาลยังให้น้ำหนักกับงบความมั่นคงมากกว่างบพัฒนาอนาคต ทั้งด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และแรงงาน ซึ่งจะทำให้ไทยพลาดโอกาสยกระดับประเทศในระยะยาว และไม่สามารถแข่งขันได้บนเวทีโลก ขณะเดียวกัน การคาดการณ์ว่าจะจัดเก็บรายได้ได้เพียง 2.88 ล้านล้านบาท และต้องกู้เพิ่มอีก 865,000 ล้านบาท ทำให้หนี้สาธารณะจ่อทะลุ 13 ล้านล้านบาท หรือ 69% ของ GDP ใกล้ชนเพดานหนี้ 70% อย่างน่าห่วง
ประเทศไทยไม่ได้ขาดงบประมาณ แต่ขาดแผน ขาดวิสัยทัศน์ และขาดหัวใจของผู้นำ ดิฉันขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนงบปี 69 อย่างรอบคอบ และเสนอ 3 ทางออก คือ
1) กองทุนเครดิตประชาชนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเงินทุนให้ประชาชนได้ใช้ในการทำมาหากินสร้างรายได้
2) เพิ่มงรีสกิล อัพสกิล เพื่อเพิ่มทักษะ ให้คนไทย แรงงานไทย ให้สามารถผลิตสินค้าที่ทันต่อความต้องการของโลก
3 ) ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ปรับโครงสร้างการเกษตรและอุตสาหกรรม ให้เดินหน้าด้วย เทคโนโลยี เพื่อลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตและคุณภาพของสินค้า เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ประชาชนจึงจะสามารถอยู่ดีกินดีได้อย่างแท้จริง