ศรีราชา แสดงพลังไม่เอางูเห่า “ณัฐพงษ์” ขอโทษชาวชลบุรี

ศรีราชาไม่แผ่ว ประกาศลั่นไม่เอางูเห่า “ณัฐพงษ์” ยืนยัน สส.ชลบุรี ปชน. ลุยงานเต็มที่
(18 พ.ค.68) เวลา 17:00 น. ที่วัดรังษีสุทธาวาส หรือวัดไร่กล้วย อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย พงศธร ศรเพชรนรินทร์ รองเลขาธิการพรรคสัดส่วนภาคตะวันออก, อภิชัย พิทยานุรักษกุล อดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ พรรคประชาชน และ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน สหัสวัต คุ้มคง (เขต 7) ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ อ.ศรีราชา, วรท ศิริรักษ์ (เขต 1), ชวาล พลเมืองดี (เขต 3) และ เบญจา แสงจันทร์ อดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ได้เปิดวงรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรค ผู้สนับสนุนพรรค และประชาชนในพื้นที่เพื่อพัฒนาการทำงานของพรรค บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนเข้าร่วมจนล้นออกนอกอาคารที่เตรียมไว้

ณัฐพงษ์ กล่าวว่า วันนี้เข้ามารับฟังปัญหาในพื้นที่พร้อมทีมงานที่พร้อมเดินหน้าทำงานต่อ ยืนยันว่า สส.ชลบุรี ทุกคนอยู่กับพรรคประชาชน การเป็น สส. ฝ่ายค้าน ไม่มีอำนาจบริหาร ไม่มีงบประมาณ ไม่ได้แปลว่าเราแก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ได้ การแก้ปัญหาในหน้าที่ผู้แทนราษฎรไม่ว่าเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล คือการเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชน
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้กำลังใจเต็มเปี่ยม ที่ผ่านมาหลายปัญหาในพื้นที่เขต 6 อาจเกิดจากการขาดโซ่ข้อกลางหรือผู้แทนที่ดี แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องปรับปรุงกระบวนการภายในพรรคด้วย ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ไม่โกรธพรรค เข้าใจว่าเป็นปัญหาที่ตัวบุคคล แต่ยอมรับว่าเราผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในฐานะหัวหน้าพรรค ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ประชาชนผิดหวังแบบนี้อีก ตนคงไม่สามารถมาขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วไม่ปรับปรุงอะไรเลย

หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า ในอนาคตกระบวนการคัดสรรผู้สมัครเราจะเปิดกว้างกับสมาชิกพรรคอย่างเต็มที่ สมาชิกพรรคในพื้นที่ต้องได้เห็นหน้าเห็นตาผู้สมัคร ก่อนขึ้นมาที่ระดับจังหวัด กรรมการบริหารพรรค ก่อนยื่นใบสมัครต่อ กดต. เราจะเปิดข้อมูลเป็นสาธารณะ ถ้าประชาชนรู้ว่าผู้สมัครคนใดมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ให้ทุกคนช่วยกันตรวจสอบส่งข้อมูลเข้ามา นี่คือพลังของพรรคมวลชน จะช่วยให้การคัดสรรตัวแทนของพรรคดีขึ้น ไม่ให้มี สส. งูเห่าเกิดขึ้นอีก
“วันนึ้เราปล่อยให้การเมืองเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ สิ่งที่น่ากลัวกว่าการปฏิวัติรัฐประหารและเป็นต้นทุนที่สูงยิ่งคือความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนต่อนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง เมื่อไหร่ก็ตามที่ประชาชนเลิกเชื่อคำว่าประชาธิปไตย เลิกเชื่อว่าผู้ที่ทรงอำนาจสูงสุดในประเทศนี้คือประชาชน นั่นคือจุดจบของประชาธิปไตย ดังนั้น นี่คือโจทย์ใหญ่ที่พวกเราต้องช่วยกันในการเลือกตั้ง 2570 เพื่อสร้างรัฐบาลที่ดีที่สุดของประชาชน”

ด้านเบญจา กล่าวว่า ในฐานะอดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ต้องขอโทษพี่น้องประชาชน เพราะสิ่งที่ยิ่งใหญ่คือประชาชนฝากความหวังไว้กับพรรค นอกจากนี้ เราต้องประณามพรรคการเมืองที่ใช้วิธีการซื้อตัว สส. นี่คือการเซาะกร่อนบ่อนทำลายประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ วันที่ 18 พ.ค.ยังตรงกับวันคล้ายวันเกิดของณัฐพงษ์ ประชาชนได้ร่วมกันอวยพรและให้กำลังใจ โดยณัฐพงษ์กล่าวว่านี่เป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิต โดยหลังจบกิจกรรมมีประชาชนเข้ามาขอถ่ายภาพกับณัฐพงษ์อย่างอบอุ่น