“ธรรมนัส“ ปราศรัยกลางสายฝน สู้เลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ

“ธรรมนัส“ นำพรรคกล้าธรรม”ปราศรัยเมืองคอนกลางสายฝน ชู“ก้องเกียรติ“เบอร์ 5 คนหนุ่มไฟแรง ความตั้งใจเกินร้อย ชี้ สส.ควรพูดน้อย ทำมาก ต้องใจถึง กล้าชนเพื่อประโยชน์ของคนในพื้นที่
วันที่ 23 เม.ย.68 ณ สนามโรงเรียนวัดหาดสูง ต.ไม้เรียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พรรคกล้าธรรมนำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เขต 1 ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมด้วย สส.พรรคกล้าธรรม อาทิ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรคกล้าธรรม,นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา และนายทะเบียนพรรค,นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา และนายบัญชา เดชเจริญศิริกุล สส.บัญชีรายชื่อ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ หรือ บิ๊กโอ ผู้สมัครจากพรรคกล้าธรรม หมายเลข 5 ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง

โดย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวกับชาวนครศรีฯช่วงหนึ่งว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีของพี่น้องชาวอำเภอฉวางที่จะส่งลูกหลานเข้าไปนั่งในสภาผู้แทนราษฎร ผมได้เปิดใจคุยถึงเส้นทางการเมืองกับบิ๊กโอ และได้รู้ว่า คนหนุ่มคนนี้ไม่สนใจ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ กระแสโจมตี หรือข่าวลือต่างๆ เขาสนใจแค่ต้องการพัฒนาเขต 8 ซึ่งตนชอบคนแบบนี้ ไม่ต้องการคนพูดเก่ง พูดมากแล้วไม่ทำงาน ตนต้องการคนพูดน้อย จริงใจ และทำงานในพื้นที่ เพื่อพัฒนาให้ชาวอำเภอฉวางมีความเจริญขึ้น คนที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บุคลิกสำคัญที่สุด คือ ต้องใจถึง ต้องกล้าชนอะไรก็ตามที่เป็นผลประโยชน์ของพี่น้องในพื้นที่ เพราะการพัฒนาสร้างบ้านแปลงเมืองถ้าไม่มีเงิน มันทำไม่ได้ ดังนั้นคนฉวางที่ตัดสินใจส่งน้องโอเข้ามานั้นถูกต้องแล้ว
”การเลือกตั้งปี 62 ผมมาปราศรัยใหญ่ที่นี่ ซึ่งตอนนั้นเราได้ สส.ของพรรคเก่าของตน ก็คือ พรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าท่านสายัณห์ ยุติธรรม อาจารย์รงค์ ล้วนแต่เป็นเด็กในค่ายที่เราส่งมาแล้ว ตอนปี 66 ผมก็มาช่วยปราศรัยเช่นเดิม ตอนนี้ก็ได้ สส.ไปแต่อยู่อีกพรรคหนึ่ง วันนี้ผมขาดมือ ขาดไม้ ดังนั้น เราจะมาหาเครือข่ายที่จะเป็นตัวแทนของพี่น้องชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชในการที่จะนำเสนอ ร้องทุกข์ของชาวบ้านต่อสภาผู้แทนราษฎรหรือต่อรัฐมนตรีในกระทรวงอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ถึงแม้ว่า พรรคกล้าธรรมจะเป็นพรรคน้องใหม่ที่เกิดขึ้นไม่นาน แต่เรามีนโยบายและสโลแกนชัดเจนว่า เรากล้าคิด กล้าทำ กล้านำเสนอ ในสิ่งที่เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ“ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ด้าน นายก้องเกียรติ กล่าวว่า ตนต้องขอขอบคุณกำลังใจของพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่มีให้ตนและพรรคกล้าธรรม มากขนาดนี้ ตั้งแต่วันแรกที่ตนไปสมัครก็มีคนไปรอให้กำลังใจหลายร้อยคนที่มาด้วยความรักและเอ็นดู พยายามผลักดันให้ตนได้ทำหน้าที่ได้เป็น สส. ได้เป็นผู้แทนของคนฉวาง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนตั้งใจอย่างมาก และก็หวังว่าจะได้รับโอกาสและความไว้วางใจจากชาวนครศรีธรรมราช เขต 8 อ.ฉวาง อ.ช้างกลาง อ.พิปูน อ.นาบอน ตนเชื่อว่าชาวฉวาง ได้เห็นวันที่ตนทำหน้าที่ สจ.อย่างเต็มที่ ตลอด 2 ปีที่ตนได้เป็นสจ.ตนทำได้ดีกว่าคนที่เป็นอยู่ 4- 5 ปี เพราะตนมีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหา และตนมั่นใจว่า สามารถดูแลในการช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องได้
นายก้องเกียรติ กล่าวต่อว่า เมื่อปี 2566 กกต.ได้แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ตนก็เห็นว่า เขตนี้ว่าง ไม่มีใครลง จึงได้ลาออกจาก สจ.แล้วก็ไปเสนอกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในตอนนั้น เขาบอกว่า ตนน่าจะยังลงสมัครไม่ได้ ยังเป็นเด็ก อายุยังน้อย ให้คนที่มีประสบการณ์ มีความรู้มากกว่า วันนั้นก็เลยไม่ได้สมัคร หลังจากนั้นก็มีความคิดว่า ถ้ายังอยู่พรรคประชาธิปัตย์คงไม่มีโอกาสได้เป็น สส.เลยไปติดต่อหลาย ๆ พรรค จนได้มาเจอกับกำนันศักดิ์ที่ บอกว่า ถ้าเรามีความตั้งใจที่จะเป็น สส.ให้เข้าไปพรรคกล้าธรรม และตนได้มีโอกาสได้พบผู้กองธรรมนัสที่ถามตนว่า พร้อมหรือไม่ที่จะถูกวิจารณ์ เพราะพรรคเราไม่ใช่พรรคสร้างภาพ ถ้าถูกวิจารณ์แล้วทำให้บ้านเจริญกว่าเดิม ก็ต้องยอมถูกวิจารณ์
“ผมโอกาสรับเลือกจากกรรมการบริหารพรรคกล้าธรรม ให้เป็นตัวแทนลงรับสมัครเป็นผู้แทนเขตที่ 8 และวันนี้ผมได้อยู่พรรคที่ดูแลกระทรวงเกษตรฯ ที่จะสามารถช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องได้มาก ผมขอฝากเนื้อฝากตัว ผมอาจจะมีประสบการณ์น้อย แต่มีความตั้งใจเกินร้อย ซึ่งเชื่อว่า จะได้รับโอกาสจากพ่อแม่พี่น้องได้ทำหน้าที่เป็นผู้แทน จ.นครศรีธรรมราช ผมขอสัญญาว่า บิ๊กโอคนนี้ 10 ปีที่แล้วที่พี่น้องรู้จักเป็นอย่างไร วันนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ยังคงเป็นน้อง เป็นหลานของทุกคน และขอขอบคุณที่ให้โอกาสสนับสนุนผมตลอดมา”นายก้องเกียรติ กล่าว