‘ธีรัจชัย’ เปิดประเด็นใหม่ โรงแรมหรูแพทองธาร อยู่ในเขตต้นน้ำ

‘ธีรัจชัย’ อภิรายไม่ไว้วางใจเปิดหลักฐานโรงแรมหรู Thames Valley เขาใหญ่ อยู่ในเขตพื้นที่นิคมสร้างตนเอง-ต้นน้ำลำธาร ห้ามออกโฉนด-ทำธุรกิจ ลั่นแพทองธารตรวจสอบคนอื่นแต่จงใจละเว้นตรวจสอบตัวเองและครอบครัว
(24 มีนาคม 68) ที่อาคารรัฐสภา ธีรัจชัย พันธุมาศ สส.พรรคประชาชน กรุงเทพมหานคร อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในข้อกล่าวหาว่าไม่มีคุณสมบัติและไม่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหาร ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม เห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัวอยู่เหนือผลประโยชน์ของส่วนรวม ไม่เคารพกฎหมาย ซ้ำร้ายยังเลือกใช้กฎหมายไปเล่นงานคู่ขัดแย้งทางการเมือง แต่กลับจงใจหลีกเลี่ยงไม่ตรวจสอบความผิดของตนเองและครอบครัว

ธีรัจชัย กล่าวว่า ในบัญชีทรัพย์สินของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ระบุว่าถือหุ้นใหญ่ในบริษัท เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ โฮเต็ล จำกัด หากพูดให้ชาวบ้านเข้าใจง่ายๆ ก็คือ นายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าของโรงแรมนี้ และไม่เพียงแต่เป็นเจ้าของ แต่ยังเป็นกรรมการบริษัท ตั้งแต่ปี 2556 จนกระทั่งต้องลาออกจากตำแหน่งกรรมการเพื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรี
โดยที่ดินที่โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ตั้งอยู่ แบ่งออกเป็น 4 แปลง มีโฉนดทุกแปลง คือโฉนดเลขที่ 22054 76046 76047 และ 76048 อยู่ในตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
“แค่ที่ดินมีโฉนด มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะถูกกฎหมายเสมอนะครับท่านประธาน ดูที่ดินเขากระโดงสิครับ มีโฉนดก็จริง แต่ทำไมถึงยังมีการตรวจสอบความไม่ชอบด้วยกฎหมายอยู่ถึงทุกวันนี้ โฉนดที่ดินจะถูกกฎหมายก็ต่อเมื่อมันออกโดยชอบด้วยกฎหมาย ถ้าออกโฉนดโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่นไปออกโฉนดในพื้นที่ที่มันห้ามออกโฉนดสุดท้ายอาจโดนเพิกถอนการออกโฉนดในภายหลังได้ เพราะการออกโฉนดนั้นทำผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น แบบนี้มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย ดังนั้น สิ่งที่ต้องตรวจสอบต่อก็คือ ไอ้ตรงโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ นี่มันสามารถออกโฉนดได้โดยชอบรึเปล่า หรือมีกฎหมายห้ามออกเอกสารสิทธิ์หรือไม่ เรามาดูกันต่อครับ”
ธีรัจชัย กล่าวต่อว่าสิ่งที่ต้องย้อนไปดูอันดับแรก ก็คือที่ดินที่เป็นที่ตั้งของโรงแรมหรูของนายกแพทองธารแต่เดิมมันเป็นที่ดินอะไร พอตรวจสอบย้อนหลังแล้ว จึงพบว่า ที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินของ ‘นิคมสร้างตนเองลำตะคอง’ โดยนิคมสร้างตนเอง คือโครงการที่รัฐบาลสมัยก่อนจัดสรรพื้นที่ให้ประชาชนเข้าไปอยู่อาศัยและทำกิน
สำหรับกรณีนิคมสร้างตนเองลำตะคองมีที่มาจากการที่รัฐบาลจะสร้างเขื่อนลำตะคอง จึงอพยพชาวบ้านมายังนิคมแห่งนี้ เมื่อปี 2513 โดยให้ที่ดินชาวบ้านทำกินกันคนละไม่เกิน 50 ไร่ โดยพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 บัญญัติว่าถ้าสมาชิกนิคมที่ได้สิทธิถือครองที่ดิน ถือครองทำกินในที่ดินอยู่ครบ 5 ปี จะสามารถออกเอกสารสิทธิที่เรียกว่า “หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตนิคมสร้างตนเอง” หรือ น.ค.3 แล้วถ้าปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่นที่กฎหมายกำหนดครบถ้วน ก็สามารถ เอา น.ค.3 ไปเปลี่ยนเป็น นส.3 หรือโฉนดที่ดินได้ต่อไป แต่หลักการนี้มีข้อยกเว้นตามกฎหมาย
หลังจากนั้นธีรัจชัยแสดงแผนที่ของกรมพัฒนาที่ดิน ที่จัดทำโดย GISTDA หรือสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นแผนที่นี้จัดทำขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการบุกรุกป่าบริเวณเขาใหญ่ในปี 2558 โดยกรอบสีแดงคือเขตพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคองคือที่ดินที่อยู่ในเขตนิคมสร้างตนเองลำตะคอง แต่ถ้าในพื้นที่นั้นมีพื้นที่สีขาวอยู่ด้วย คือพื้นที่ที่ถูกกันไว้เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธาร หรือเรียกภาษาอังกฤษว่า Watershed Area ซึ่งมีมติ คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2514 ให้สงวนหวงห้ามไว้ ไม่ให้มีการเข้าไปทำประโยชน์และไม่ให้ออกเอกสารสิทธิใดๆ
“…ผมนำเลขที่โฉนดแปลงนี้ คือหมายเลข 22054 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง ใส่ลงไปในระบบแลนด์แมพของกรมที่ดิน ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ประชาชนคนไหนๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ เมื่อได้พิกัดมาแล้ว เราก็เอาพิกัดนั้นไปเทียบกับแผนที่อิเล็กโทรนิกส์ของกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งเป็นเอกสารราชการที่น่าเชื่อถือ โดยใช้ระบบ GIS ระบบคอมพิวเตอร์มีความแม่นยำสูง ก็จะเห็นว่าที่ดินแปลงนี้ที่เป็นที่ตั้งของโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ ของท่านนายกแพทองธาร ตั้งอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ซึ่งตามกฎหมายแล้วเข้าใช้ประโยชน์ไม่ได้ และออกโฉนดไม่ได้ครับ ย้ำชัดๆ ที่ดินในนิคมสร้างตนเองลำตะคอง ออกโฉนดได้ครับเว้นแต่มันจะเป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารตรงไอ้ก้อนขาวๆ ทั้งสามก้อนเนี่ย เขาห้ามเข้าไปครอบครองทำประโยชน์ เมื่อห้ามใครเข้าไปทำประโยชน์แล้ว มันก็ออก น.ค. 3 ไม่ได้ เมื่อออก น.ค. 3 ไม่ได้ ใครก็ออก นส. 3 หรือโฉนดที่ดิน ไม่ได้เช่นกันครับ”