เปิดศึกซักฟอก 68 หมายเป้า เลือกตั้ง 70

การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกของฝ่ายค้าน ที่นำโดยพรรคประชาชน และเป็นครั้งแรกของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
โดยจะเริ่มขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม ต่อเนื่องไปถึงวันที่ 25 มีนาคม และจะมีการลงมติในวันที่ 26 มีนาคม
การอภิปรายครั้งนี้ พรรคประชาชนนำเสนอแคมเปญ “ดีลแลกประเทศ” เปรียบเปรย รัฐบาลที่นำโดยแพทองธาร นั้น มีการต่อรองแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ซึ่งหลักๆมาจากการกลับสู่ประเทศไทยของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องแลกด้วยอะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะการข้ามขั้วไปจับมือกับฝ่ายที่เคยอยู่ตรงข้าม

ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายเพียงชื่อเดียวคือนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือ การโยงไปถึงทักษิณ ชินวัตร ว่าเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง คอยโยงใย เป็นหลังบ้านของรัฐบาล
ดังนั้น ในการอภิปรายครั้งนี้นอกจากแพทองธาร จะถูกอภิปรายหลักแล้ว ทักษิณยังจะโดนด้วย มิหนำซ้ำอาจจะโดนมากกว่าแพทองธาร
เพราะอย่างที่แกนนำพรรคเพื่อไทยบางคนบอกว่า ทักษิณ คือหัวใจของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น ยุทธศาสตร์ของพรรคประชาชน ก็คือการทำลาย หรือ ดิสเครดิต ทักษิณ ซึ่งเป็นหัวใจของพรรคเพื่อไทย ลงให้จงได้
เดิมทีฝ่ายค้านยื่นญัตติ โดยมีชื่อของทักษิณในญัตตินั้นด้วย แต่ภายหลังพรรคเพื่อไทยได้ทักท้วงให้ตัดชื่อทักษิณออก
ดังนั้นการอภิปรายครั้งนี้ ในญัตติจึงเหลือเพียงคำว่า “บุคคลในครอบครัว” แต่กระนั้น ในการอภิปรายจริง ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่เอ่ยชื่อทักษิณ เพราะเป้าประสงค์หลักคือการอภิปรายทักษิณ ไม่ใช่แพทองธาร

ถ้าจะพูดถึงแผลทักษิณ นับตั้งแต่เดินทางกลับไทย ก็ถือว่ามีมากพอสมควร แผลใหญ่ๆ ก็โดยเฉพาะเรื่องชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งทักษิณชินวัตรได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือคุก 1 ปี แต่กลับไม่ยอมติดคุกเลย แม้แต่วันเดียว
เรื่องนี้ก็จะนำไปสู่ประเด็นการทำลายหลักกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่หลวง และหากฝ่ายค้านมีข้อมูลว่า ทักษิณไม่ได้ป่วยจริง หรือไม่ได้นอนโรงพยาบาลตำรวจจริง ก็อาจไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ก็เป็นได้
นอกจากนี้ยังมีเรื่องการบริหารงานของรัฐบาล ที่เชื่อกันว่าทักษิณ ได้เข้ามาก้าวก่ายภายในรัฐบาล ดังจะเห็นจากกระแสข่าว เมื่อเกิดความขัดแย้งภายในรัฐบาล ก็จะมีทักษิณเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย
ที่สำคัญเมื่อทักษิณ นำเสนอแนวคิดใหม่ๆ รัฐบาลก็จะรับลูก แล้วจัดทำเป็นนโยบายของรัฐบาลแทบจะทันที
อย่างไรก็ตาม การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่การโค่นล้มรัฐบาล หรือการเอานายกอิ๊งค์พ้นเก้าอี้ แต่เป็นการหวังผลทางการเมืองในปี 2570

เมื่อถึงคราวเลือกตั้งใหม่ พรรคประชาชนหวังว่า คะแนนของพรรคเพื่อไทยจะลดลง และคะแนนของพรรคประชาชน จะเพิ่มขึ้น จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยง่าย