ครม.อนุมัติกรอบวงเงิน 600 ล้าน โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดของกลาโหม

ครม.อนุมัติกรอบวงเงิน 600 ล้าน โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม
วันที่ 11 ก.พ.68 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ

สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา มีดังนี้
- แผนปฏิรูปการบริหารจัดการกำลังพลของ กห. กำหนดเป้าหมายการปรับลดกำลังพลลงร้อยละ 5 ของยอดกำลังพล ตั้งแต่ปีงบประมาณ พุทธศักราช 2563 – 2570 และปรับลดกำลังพลนายทหารชั้นนายพลในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ผู้ทรงคุณวุฒิ และนายทหารปฏิบัติการให้เหลือร้อยละ 50 ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2551 – 2571 เพื่อให้เกิดความสมดุลของสัดส่วนกำลังพลในทุกระดับ มุ่งสู่ “การเป็นกองทัพที่กะทัดรัด ทันสมัย มีการบริหารจัดการกำลังพลที่มีประสิทธิภาพ” ในการนี้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินการปรับลดกำลังพลตามแผนข้างต้น โดยมุ่งเน้นการแก้ปัญหาความคับคั่งของกำลังพลในกลุ่มชั้นยศสูงซึ่งเป็นปัญหาในการบริหารจัดการกำลังพลของ กห. ในปัจจุบัน สืบเนื่องมาจากการผลิตกำลังพลจำนวนมากเพื่อรองรับสถานการณ์ความมั่นคงในอดีต ทำให้ไม่สามารถบริหารจัดการกำลังพลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การจัดทำแนวทางการดำเนินโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของ กห. โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม จึงเป็นเครื่องมือที่จะสามารถแก้ไขปัญหาด้านกำลังพลของ กห. ได้ตรงจุด ซึ่งจะส่งผลให้ กห. เกิดความสมดุลของสัดส่วนกำลังพลในทุกระดับ รวมถึงเป็นการประหยัดงบประมาณด้านบุคลากรภาครัฐในระยะยาว ทำให้การพัฒนาระบบบริหารจัดการของ กห. และการพัฒนากองทัพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเป็นการสนับสนุนนโยบายและเจตนารมณ์ของรัฐบาลในปัจจุบัน
- โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของ กห. มีหลักการเป็นการจูงใจข้าราชการทหารที่ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ผู้ทรงคุณวุฒิ นายทหารปฏิบัติการและประจำหน่วยให้ลาออกจากราชการก่อนเกษียณอายุราชการโดยสมัครใจ เพื่อลดความคับคั่งของกำลังพลในกลุ่มชั้นยศสูง โดยให้ข้าราชการทหารที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด เช่น ต้องเป็นทหารชั้นยศ พันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอกขึ้นไป ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ผู้ทรงคุณวุฒิ นายทหารปฏิบัติการ และประจำหน่วยที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และมีเวลาราชการ 25 ปีขึ้นไป (ไม่รวมเวลาราชการทวีคูณ)] ที่ลาออกจากราชการก่อนเกษียณอายุได้รับสิทธิประโยชน์ที่เป็นเงินก้อน 7 – 10 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย รวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี) โดยไม่รวมเงินหรือค่าตอบแทนพิเศษอื่น ๆ ตามสูตรการคำนวณ ดังนี้
เงินก้อน = [5 + อายุราชการที่เหลือ (ปี)] X เงินเดือนเดือนสุดท้ายรวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี)
แต่สูงสุดไม่เกิน 10 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย รวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี)
นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เช่น การยกเว้นภาษีเงินก้อนที่ได้รับตามโครงการ การยกเว้นภาษีในส่วนของเงินที่ได้รับจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เป็นต้น - กค. พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การจ่ายเงินช่วยเหลือตามโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดของ กห. ประจำปีงบประมาณ พุทธศักราช 2568 – 2570 ถูกต้องตามกฎหมายและเพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม พ.ศ. …. มาเพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณา
- กค. ได้จัดทำประมาณการการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับตามมาตรา 27 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 แล้ว โดยการดำเนินโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดของ กห. จะใช้เงินงบบุคลากรของ กห. ภายในกรอบวงเงิน 600 ล้านบาท โดยไม่ต้องของบกลางเพิ่มเติม ระยะเวลาการดำเนินโครงการ 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2568 – พ.ศ. 2570 (วงเงิน 200 ล้านบาท/ปี) โดยประมาณการผู้เข้าร่วมโครงการฯ รวม 3 ปี ประมาณ 732 นาย (ปีละ 244 นาย)
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาความคับคั่งของกำลังพลในกลุ่มชั้นยศสูงซึ่งเป็นปัญหาในการบริหารจัดการกำลังผลของ กห. ในปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดความสมดุลของสัดส่วนกำลังพลในทุกระดับ รวมถึงเป็นการประหยัดงบประมาณด้านบุคลากรภาครัฐในระยะยาว ทำให้การพัฒนาระบบบริหารจัดการของ กห. และการพัฒนากองทัพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและเป็นการสนับสนุนนโยบายและเจตนารมณ์ของรัฐบาลในปัจจุบัน