“ศรีสะเกษ” ทำไม “เพื่อไทย” แพ้ยับ
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2025/02/นายกวิชิต-1024x574.png)
ทำไมเพื่อไทยแพ้ยับ เลือกตั้ง นายก อบจ.ศรีสะเกษ
ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ นายก อบจ.เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา พื้นที่หนึ่งที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ นั่นก็คือจังหวัดศรีสะเกษ
สนามนี้มีคู่แข่งคนสำคัญคือวิชิต ไตรสรณกุล แชมป์เก่าซึ่งนั่งในตำแหน่งนายก อบจ.ศรีสะเกษมาแล้ว 6 สมัย เป็นบิดาของ ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย
ส่วนผู้ท้าชิงได้แก่ วิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ อดีต สส.ศรีสะเกษหลายสมัย โดยตำแหน่งล่าสุดได้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย
ผลปรากฏว่า วิชิต ชนะอย่างถล่มทลาย ด้วยคะแนน 368,806 คะแนน ส่วนวิวัฒน์ชัย ได้ 231,962 คะแนน ก่อให้เกิดคำถามว่า หรือพรรคเพื่อไทยและทักษิณ ชินวัตร จะสิ้นมนต์ขลังแล้วในพื้นที่ศรีสะเกษ
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2025/02/LINE_ALBUM_2568-01-19-อบต.ตำแย-อ.พยุห์_250122_1-1024x1024.jpg)
อย่างไรก็ตาม หากเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว วิชิต มีดีกรีเหนือกว่าวิวัฒน์ชัย ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ชื่อเสียง ผลงาน และเครือข่าย
ส่วนสำคัญที่ทำให้ “วิชิต” ชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ มาจากเครือข่ายท้องถิ่นที่เขาสร้างไว้มาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งผิดกับ “วิวัฒน์ชัย” ที่แทบไม่มีเครือข่ายท้องถิ่นสนับสนุน ถ้าจะมีก็น้อยกว่าวิชิตมาก
แม้ พรรคเพื่อไทย จะได้ สส.ศรีสะเกษ ถึง 7 เขต จากทั้งหมด 9 เขต แต่ก็ใช่ว่า สส.ทุกคนจะสนับสนุนช่วยเหลือ “วิวัฒน์ชัย”
นั่นทำให้แนวร่วมที่จะมาสนับสนุน วิวัฒน์ชัย ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ดูไม่เป็นเอกภาพและสะเปะสะปะอย่างเห็นได้ชัด
ยกตัวอย่างภายหลังการเลือกตั้งเสร็จ กลุ่มคนเสื้อแดงศรีสะเกษ ออกมาแถลงข่าววิจารณ์ วิวัฒน์ชัย และพรรคเพื่อไทยว่า ไม่ให้เกียรติเสื้อแดง มิหนำซ้ำยังด้อยค่าเสื้อแดงด้วย
คนเสื้อแดงศรีสะเกษบอกว่า เหตุผลที่แพ้การเลือกตั้งครั้งนี้ ส่วนหนึ่งจากตัวผู้สมัคร ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของหลายฝ่าย รวมถึงคนเสื้อแดงเอง
แม้ก่อนการเลือกตั้งหนึ่งสัปดาห์ทักษิณ ได้ลงพื้นที่ปราศรัยในจังหวัดศรีสะเกษหลายอำเภอ รวมแล้ว 5 เวที ซึ่งถือว่ามากกว่าทุกจังหวัดที่ทักษิณได้เคยปราศรัยมาก่อน
ตอนหนึ่งของการปราศรัย ทักษิณ ได้ขุดยุทธการของพรรคเพื่อไทย “ไล่หนูตีงูเห่า” โดยบอกคนศรีสะเกษว่า รอบหน้าขอ สส.ยกจังหวัดและขอนายก อบจ.ด้วย
ผลปรากฏว่าทักษิณยังไม่ทันได้เดินทางออกจากศรีสะเกษ ก็เจอปฏิกิริยาโต้กลับ โดยโซเชียลมีเดียในศรีสะเกษรุมกระหน่ำทักษิณว่า “จะไล่หนูกี่โมง” ก็ในเมื่อตอนนี้ “หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นรองนายกฯใน รัฐบาลแพรทองธาร นี่เอง
ดอกนี้เล่นเอาพรรคเพื่อไทยแก้ไม่ได้ ไปไม่เป็นเลยทีเดียว
โดยรวมแล้วการเลือกตั้งนายก อบจ. ศรีสะเกษ ถือเป็นการแข่งขันกันของบ้านใหญ่ “ไตรสรกุล” และ “พรรคเพื่อไทย” โดยตรง เพราะเพียงลำพัง “วิวัฒน์ชัย” ไม่อาจต่อกรกับ “วิชิต” ได้อยู่แล้ว
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2025/02/474766222_571497329211579_7845065280334156349_n-1024x683.jpg)
โดยเหตุผลที่วิชิตชนะได้หลักๆมาจาก
1)ลงในนามกลุ่มอิสระ
แมับ้านใหญ่แห่งนี้จะมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคภูมิใจไทย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พวกเขาเปิดตัวว่าลงนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามพรรคภูมิใจไทย เมื่อนั้นจะเป็นการสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งนายก อบจ. ศรีสะเกษของวิชิต เพราะกระแสของพรรคภูมิใจไทยในศรีสะเกษนอกจากไม่ดีแล้ว ยังถือว่าแย่เลยทีเดียว ถ้าลงในนามพรรคภูมิใจไทย ก็มีแต่แพ้กับแพ้อย่างยับเยิน
2)วิวัฒน์ชัย ไม่แข็ง
อย่างที่บอกว่าถ้าเทียบฟอร์มแล้ว วิชิตเหนือกว่าวิวัฒน์ชัย ในทุกด้าน เพียงแต่วิวัฒน์ชัย ได้กระแสของพรรคเพื่อไทยมาเกื้อหนุนให้พอเทียบชั้นแชมป์เก่าได้บ้าง แต่ผลการเลือกตั้งก็บ่งชี้แล้วว่า คนศรีสะเกษเลือกคนไม่ได้เลือกพรรค
3)เครือข่ายแน่นปึ้ก
วิชิต เป็นนายก อบจ.มา 6 สมัย สร้างเครือข่ายไปทั่วศรีสะเกษ มิหนำซ้ำ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กลุ่มของเขา ยังส่งผู้สมัคร ส.อบจ.ครบทั้ง 36 เขต ตรงนี้ก็เป็นส่วนที่เกื้อหนุนให้ได้คะแนนมาในทุกพื้นที่ เพราะมี ส.อบจ.ช่วยเรียกคะแนนเสียงเข้ามาด้วย
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2025/02/LINE_ALBUM_บ้านหัวเสือ-ขุขันธ์_250115_1-1024x1024.jpg)