พปชร.ปรับทัพ “ประวิตร” หัวหน้า “ไพบูลย์” เลขาพรรค
พปชร.ลงมติเลือก”พล.อ.ประวิตร”นั่งหัวหน้าพรรคนำทัพต่อ ปรับแผนใหม่ มอบรองหัวหน้ายึดโยงพื้นที่ เลขาฯคนใหม่หนุนการทำงาน มั่นใจ พรรคจะไม่แตกแยกอีก ยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ ชูทันสมัยเศรษฐกิจ เพื่อปชช.มีชีวิตทีดีขึ้น
เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 พรรคพลังประชารัฐ ได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 2/2567 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย คณะกรรมการบริหารพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ตัวแทนภาค และตัวแทนสาขา และสมาชิกพรรค เข้าร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง กว่า 800 คน เพื่อร่วมกันเดินหน้าขับเคลื่อนพรรคพลังประชารัฐมุ่งสู่การเป็นสถาบันการเมือง ด้วยอุดมการณ์ “ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส ของคนไทยทั้งประเทศ ”
จากนั้น เมื่อองค์ประชุมครบจำนวนตามข้อบังคับ พล.อ.ประวิตร ได้ทำหนังสือ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้า เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับของพรรค เป็นผลให้คณะกรรมการบริหารทั้งชุดปัจจุบัน หมดวาระลงทันที จากนั้น จึงเข้าสู่กระบวนการเสนอชื่อ และ เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ผลการลงคะแนนในที่ประชุม มีมติดังนี้
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 2
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคคนที่ 3
นายอุตตม สาวนายน รองหัวหน้าพรรคคนที่ 4
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 5
นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 6
นายชัยมงคล ไชยรบ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 7
นายอภิชัย เตชะอุบล รองหัวหน้าพรรคคนที่ 8
พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เหรัญญิกพรรค นายสมโภชน์ แพงแก้ว นายทะเบียนพรรค
ส่วนกรรมการจำนวน 12 คน ประกอบด้วย นายอนันต์ ผลอำนวย นายทวี สุระบาล นายสุธรรม จริตงาม นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ นางสาวกาญจนา จังหวะ นายคอซีย์ มามุ นายอัครวัฒน์ อัศวเหม นายยงยุทธ สุวรรณบุตร พลตำรวจโทปิยะ ต๊ะวิชัย นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ หม่อมหลวง กรกสิวัฒน์ เกษมศรี และนายวัน อยู่บำรุง
คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ นางสาวตรีนุช เทียนทอง พลเอกกฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์
พล.อ.ประวิตร กล่าวในที่ประชุมว่า “ขอบคุณที่ทุกท่านที่มาร่วมประชุมในวันนี้ และเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ จากวันนี้ไป พรรคพลังประชารัฐจะไม่มีวันแตกแยกอีกแล้ว พรรคจะดำเนินการในแนวทางใหม่โดยมอบหมายให้รองหัวหน้าพรรค ควบคุมพื้นที่ และดูแลสส. และมอบหมายให้เลขาธิการพรรคเป็นฝ่ายสนับสนุน พรรค จะยึดมั่นในสถาบัน และปกป้องไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะทำเศรษฐกิจที่ทันสมัย ให้ประชาชนมีชีวิตที่ดี และความเป็นอยู่ที่สดใส เราจะร่วมกันทำให้พรรคเข้มแข็ง เพื่อให้ประเทศไทยอยู่ดีมีสุข”