“จตุพร” ดักทาง “ทักษิณ” อย่าคิดหนี คดี 112
“จตุพร” ดัก ทักษิณ อย่าอ้างป่วยสาหัส ตาขาวหนี คดี 112
(16 มิ.ย.67) นายจตุพร พรหมพันธุ์ คณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์โดยเรียกร้องทักษิณ ชินวัตร ให้ยึดหลักแห่งเกียรติยศ ไปพบอัยการสูงสุดเพื่อส่งตัวฟ้องศาลคดี ม.112 ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ระบุ “วันที่ 18 มิ.ย. ผมต้องการให้ทักษิณ คิดทบทวนเหตุการณ์ชุมนุมในอดีต มีคนมาตายและสูญสิ้นอิสรภาพให้ตัวเองมากเท่าไร แต่เมื่อกลับมายังประเทศแล้วแทนที่จะชดใช้ในความรู้สึกที่ตัวเองเอาหนีเอาเปรียบทุกคนที่สู้มาเนินนาน”
พร้อมย้ำ ต้องการให้คิดว่า สิ่งที่ใหญ่ที่สุดของคนไม่ใช่เงินทอง มันคือเกียรติมากกว่า ดังนั้น เมื่อปากดีฟาดฟันเรื่องผลไม้พิษ ต้นไม้พิษ และไม่ยอมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมตามที่ตัวเองถวายฎีกาว่า เคารพในกระบวนการยุติธรรม และสำนึกในความผิดแล้ว
“อยากให้ (ทักษิณ) จุดประกายความกล้า ใช้ตาดำมากกว่าตามขาวสักหน่อย โดยในวันอังคารนี้ (18 มิ.ย.) ต้องไปพบอัยการให้นำตัวฟ้องศาล อีกอย่างคนมีหน้าที่ในบ้านเมืองต้องจัดการสถานการณ์ให้เข้าสู่ภาวะปกติ คืนกระบวนการยุติธรรมให้ถูกต้อง และมีมาตรฐานในการพิจารณาคดีแบบเดียวกัน”
อย่างไรก็ตาม นายจตุพร ค่อนข้างเชื่อและมั่นใจว่า ในวันอังคารนี้ โอกาสที่ทักษิณ จะไม่ไปพบอัยการมีอยู่มาก นอกจากไม่ไปโดยอ้างว่าป่วยแสนสาหัสแล้ว ยังมีทางเลือกไม่สู้ตามคำพูดที่กล้าหาญ แล้วหลบหนีออกนอกประเทศอีกครั้งหนึ่ง หรืออ้างสารพัดเหตุการป่วยไม่ไปศาลตามนัด
นายจตุพร กล่าวว่า อัยการสูงสุดได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไฟเขียวไม่มีอยู่จริง ด้วยการอ่านคำฟ้องคดี ม.112 เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา ทั้งที่ทักษิณ ไม่ไปพบตามนัดหมายกันไว้ โดยอ้างป่วยโควิดกระทันหัน จึงเท่ากับแสดงถึงความจริงได้ปรากฎแล้ว ดังนั้น บ้านเมืองย่อมได้เดินไปสู่ความถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ความเสียหายเกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะความเสียหายจากความพยายามจะเปิดบ่อนกาสิโนให้ได้โดยเอาวิถีบ้านเมืองมาแลกกับความต้องการด้านเศรษฐกิจส่วนตัวของตัวเองทั้งนั้น
สิ่งสำคัญ ทักษิณ พูดขออนุญาติกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน เป็นการพูดหลังจากดีลกับคณะดีลสิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งเป็นคำพูดเพื่อให้เกิดความมั่นใจ แต่มีข้อกังขาว่า ทักษิณ ขออนุญาติใครและหมายถึงใคร เมื่อกลับมาแล้ว ยังไม่ทำตามที่คำพูด ซ้ำร้ายกลับทำบ้านเมืองเสียหายยับเยิน