Skip to content
Sun. Sep 21st, 2025
  • Facebook
  • Twitter
AEC10NEWS

AEC10NEWS

Primary Menu
  • Home
  • NEWS
    • BREAKING NEWS
    • CHINA NEWS
    • ENERGY FORCE
    • EDITOR TALK
    • MONEY MOVEMENT
    • NATIONAL
    • OPEN NEWS
    • POLITICS
    • WORLD
    • ดวงประจำวัน
  • ASEAN
    • Brunei
    • Cambodia
    • Indonesia
    • Laos
    • Malaysia
    • Myanmar
    • Philippines
    • Singapore
    • Vietnam
  • EEC
  • SPECIAL REPORT
  • BUSINESS
    • BUSINESS MOVEMENT
    • HOT MARKETS
    • PHOTO STORIES
  • HOT NEWS
  • POLITICS

“พิธา” เปิดใจกลางสภา อาจเป็นครั้งสุดท้าย ที่ได้อภิปราย

05/04/2024 1 min read
  • LINEแชร์เลย!
ดูแล้ว: 1,318

“พิธา” สรุปปิดอภิปรายทั่วไป ม.152 อัดรัฐบาลไร้วาระ ไร้วิสัยทัศน์ ยกตัวเลขบวกมาโชว์แต่มองไม่เห็นบริบท-ปัญหาที่แท้จริงของประชาชน แนะปรับ ครม.-มีโรดแมปได้แล้ว

วันที่ 4 เม.ย.2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เป็นผู้อภิปรายปิดคนสุดท้าย ในการอภิปรายเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 โดยได้สรุปถึงภาพรวมการอภิปรายที่เกิดขึ้นตลอดสองวันที่ผ่านมา

นายพิธา เริ่มต้นการอภิปราย โดยระบุว่า ตลอดระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมาตนไม่เคยเสียใจเลยที่ไม่ได้เป็นผู้บริหารแม้จะชนะเลือกตั้ง สามารถรวบรวมเสียงได้ 312 เสียง ไม่เคยเสียใจที่เข้ามาเป็นฝ่ายค้าน และไม่เคยเสียใจว่าการอภิปรายในครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต ตนพร้อมที่จะเดินจากไปอย่างผู้ชนะ ไม่มีอะไรติดค้างใจต่อไป และมั่นใจว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพรรคของตนไม่ว่าจะเป็นการยุบพรรค การทำลายพรรคก้าวไกล จะไม่ทำให้การเดินทางสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศไทยของเราหายไป และยิ่งยุบพรรคจะยิ่งทำให้พวกเราไปถึงเส้นชัยที่เราต้องการจะทำได้เร็วมากขึ้นด้วยซ้ำ

แต่ตนรู้สึกเสียดาย เมื่อยิ่งได้ฟังการชี้แจงของรัฐบาลในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ตนยิ่งเสียดายโอกาสของประเทศไทย เสียดายเวลาประเทศไทยที่ต้องเสียไป เสียดายศรัทธาของประชาชน และเสียดายตัวเองที่เคยเป็นคนที่ลงคะแนนให้กับพรรคไทยรักไทยมาตั้งแต่ปี 2543 เพราะวันนี้รัฐบาลเต็มไปด้วยความสะเปะสะปะ ที่หาเสียงไว้ไม่ได้ทำ ที่ทำไม่ได้หาเสียงไว้ จนอดรู้สึกไม่ได้ว่ารัฐบาลนี้ไม่มีวาระเป็นของตัวเอง ไร้วิสัยทัศน์ และไร้ผลงาน

นายพิธา อภิปรายต่อไปว่า จากจุดนี้ตนขอแบ่งการอภิปรายออกเป็น 3 ช่วง คือการสรุปการอภิปรายทั้ง 2 วันที่ผ่านมา การสะสางข้อเท็จจริงที่นำมาใช้ในการตอบโต้ และข้อเสนอแนะที่ตนมีต่อรัฐบาล

โดยในส่วนของการสรุป ตนมีความกังวลว่าวิสัยทัศน์ “8 ฮับ” ของรัฐบาลคือความ “มืด 8 ด้าน” ของประชาชน โดยสิ่งที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง คือ 1) มืดเรื่องปากท้อง 2) มืดแก้ส่วย 3) มืดผูกขาด ส่วนที่ล่าช้าคือ 4) มืดกระตุ้นเศรษฐกิจ 5) มืดแก้ไขรัฐธรรมนูญ และที่ละเลยคือ 6) มืดปฏิรูปกองทัพ 7) มืดมนคุณภาพชีวิต และ 8) มืดกระบวนการยุติธรรม ซึ่งหลายเรื่องที่ว่ามาข้างต้นได้มีการตอบคำถาม ถกเถียง และรับปากจะไปดำเนินการบ้างแล้ว แต่สิ่งที่ตนรู้สึกว่ายังถกกันไม่ตกผลึกและยังไม่เห็นภาพชัดเจน ก็คือเรื่องของการปฏิรูปกองทัพ

การที่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่างงที่ฝ่ายค้านพูดแต่เรื่องเดิม ๆ ที่ผ่านไปแล้ว ตนก็งงนายกรัฐมนตรีเหมือนกันที่พูดไม่เหมือนเดิม ก่อนเลือกตั้งพูดอย่างทหลังเลือกตั้งพูดอีกอย่าง และเมื่อเทียบนโยบายปฏิรูปกองทัพของพรรคก้าวไกลกับนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ยื่นกับ กกต. ก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ว่าแต่ก่อนตอนที่เป็นฝ่ายค้านด้วยกันก็คิดเหมือนกัน ตอนขึ้นเวทีดีเบตก็พูดเหมือนกัน

“พอมาพูดกันอีกครั้งหนึ่งผมก็ยังพูดเหมือนเดิมไง ก็เพราะว่าก่อนเลือกตั้งเป็นอย่างไร หลังเลือกตั้งผมก็พูดอย่างนั้น อันนี้มันเป็นสิ่งที่มันคิดอยู่ในหัว และคิดว่ามันเป็นความจำเป็นของประเทศนี้ แต่ท่านก็บอกว่าท่านงงว่าผมพูดเรื่องเดิม ไอ้พวกผมก็เลยงงว่าอ้าวเฮ้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า” นายพิธา กล่าว

นายพิธา อภิปรายต่อไปว่า ในเรื่องที่มีการอภิปรายเกี่ยวกับปฏิบัติการไอโอ หากรัฐบาลยังคงไม่รู้อยู่อีกว่าใครเป็นคนทำไอโอในช่วงที่ผ่านมา ตนก็ขอเสนอให้ไปอ่านงานวิจัยและข้อมูล 2-3 แหล่ง ทั้งของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สำนักข่าวรอยเตอร์ และมหาวิทยาลัยโตรอนโต ที่ยืนยันว่าการทำไอโอในประเทศไทยมีอยู่จริงและทำโดยกองทัพไทย ถ้าท่านยังคิดไม่ออกว่าใครกันแน่ที่เป็นคนทำไอโอ ท่านก็ลองไปอ่านดู

เรื่องที่สอง นายกรัฐมนตรีงงว่าพรรคก้าวไกลมีจุดยืนอย่างไรกันแน่กับเรื่องการจัดซื้ออาวุธ และยังกล่าวพาดพิงว่ามีคนจากพรรคก้าวไกลเคยบอกว่าจะเอาเรือประมงไปรบ ซึ่งก็น่าจะหมายถึงตน จึงต้องขอนำข้อมูลมาทำความเข้าใจกับนายกรัฐมนตรีใหม่

ข้อมูลที่ตนได้มานี้มาจากทหารเรือเอง รวมถึงจากทูตทหารหลายประเทศ ที่มาเล่าให้ฟังว่าเวลานี้ภัยความมั่นคงมันเปลี่ยนไปแล้ว เป็นสงครามผสม (hybrid warfare) โดยระบุว่าช่วงที่ผ่านมาการสงครามมีการพัฒนาไปมาก รวมถึงมีการใช้เรือประมงปลอมให้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอาวุธในการทำลาย ขู่เข็ญ และปฏิบัติการจิตวิทยา อีกทั้งยังมีข้อมูลจากศูนย์ AA ของตุรกี สำนักข่าว CNN รวมถึง South China Morning Post ที่ระบุว่าเมื่อกฎหมายระหว่างประเทศไม่อนุญาตให้มีการยิงเรือประมง จึงมีบางประเทศในทะเลจีนใต้นำเรือประมงมาผสมกับเรือรบกว่า 20,000 ลำ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ตนไม่ได้คิดขึ้นมาเอง แต่เป็นสิ่งที่ตนได้ยินมาจากทหารเรือและทูตทหาร รวมทั้งหลักฐานต่าง ๆ ที่ปรากฏข้างต้น

ในเรื่องของการจัดซื้ออาวุธนั้น นายกรัฐมนตรีบอกว่างงกับการที่พรรคก้าวไกลมีจุดยืนสนับสนุนการซื้อเรือฟริเกต ซึ่งตนต้องขอย้ำว่าพรรคก้าวไกลมีหลักคิดในการปฏิรูปกองทัพให้ทันสมัย มีสิทธิมนุษยชน มีความเป็นมืออาชีพ และต้องมีอาวุธที่เหมาะสม สามารถสร้างอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้เกิดขึ้นในประเทศเองได้ โดยไม่เบียดเบียนภาษีมากเกินไป ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องการให้ซื้ออาวุธอะไรเลย ซึ่ง สส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้อภิปรายไปแล้วว่าเรือฟริเกตมีความจำเป็นอย่างไร เหมาะสมอย่างไร สร้างอุตสาหกรรมใหม่ให้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจได้อย่างไร และเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างไร เมื่อเข้าเกณฑ์เช่นนี้ พรรคก้าวไกลจึงไม่คิดว่าจะต้องต่อต้านอะไร

ประการต่อมาคือเรื่องของการสะสางข้อเท็จจริงที่ใช้ในการอภิปรายครั้งนี้ทั้งหมด ซึ่งตนจับคำพูดนายกรัฐมนตรีได้คำหนึ่ง ว่าอยากจะเน้นเรื่องบวก ไม่อยากจะเน้นเรื่องปัญหา แต่ความเป็นจริงคือประเทศของเรามีทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน ความท้าทาย และโอกาส

คนที่จะเป็นผู้นำได้ถ้าเน้นแต่ในเรื่องที่เป็นบวกอย่างเดียวก็จะเกาไม่ถูกที่คัน เวลาที่นายกรัฐมนตรีเลือกเอาตัวเลขมาพูดในสภาฯ ตนจึงได้เห็นแต่ตัวเลขที่เป็นบวก ที่เป็นผลดีต่อรัฐบาล แต่ไม่มีบริบท ไม่ครบถ้วน และเป็นแค่เหรียญด้านเดียวที่ไม่สามารถทำให้เห็นภาพปัญหาของประชาชน โอกาส และความท้าทายของประเทศไทย ทำให้รัฐบาลไม่สามารถมียุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาไปข้างหน้าได้ เน้นยกมาแต่ตัวเลขในเรื่องของปริมาณมากกว่าการเพิ่มมูลค่า เน้นเรื่องราคามากกว่าคุณภาพชีวิตประชาชน เน้นที่จะพึ่งปัจจัยจากต่างประเทศโดยไม่เน้นว่าจะต้องนำพลังมาจากภายในออกมา

เช่น ในเรื่องของการเกษตร รัฐบาลชอบพูดว่าราคายางพาราดีที่สุดโดยรอบ 10 ปี ซึ่งก็จริงและถูกด้วย แต่ก็ถูกไม่หมด เพราะราคายางในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาเป็นวงจรสินค้าตามปกติที่มีขึ้นมีลงตามฤดูกาล แทนที่จะเน้นเรื่องคุณภาพชีวิตของประชาชน แทนที่จะเน้นเรื่องของการเพิ่มมูลค่า กลับไปภูมิใจในเรื่องของปริมาณว่า 30% เป็นของคนไทย แต่ขณะเดียวกันรายได้ของเกษตรกรลดลง 8% มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าสินค้าเกษตรราคาสูงมากในหลาย ๆ ตัว แต่รายได้ของเกษตรกรลดน้อยลง หนี้ภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 3% ในช่วง 7-8 เดือนที่ผ่านมา

ต่อมาในเรื่องของภาคการผลิต ที่นายกรัฐมนตรีมีการยกคำว่า “สึนามิแห่งการลงทุน” ขึ้นมา ซึ่งตนมีความกังวลว่ามันจะกลายเป็นสึนามิขึ้นมาจริง ๆ เพราะแม้ในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้วจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า แต่นี่คือตัวอย่างของการยกตัวเลขขึ้นมาแบบไม่ดูบริบท เช่น ในเรื่องของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ที่อาจจะได้รับผลกระทบอย่างสูง โดยเฉพาะการเข้ามาของอุตสาหกรรมรถยนต์อีวีจากประเทศจีน ซึ่งตรงนี้มีข้อน่าสงสัยอยู่ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์สันดาปที่อยู่ในประเทศไทยจะมีการบริหารจัดการอย่างไร

ตนเข้าใจดีถึงเกณฑ์ที่ระบุให้การลงทุนรถยนต์อีวีจากต่างประเทศต้องมีสัดส่วนของวัตถุดิบที่มาจากภายในประเทศ (local content) 30-40% แต่รถยนต์อีวีต้องใช้แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์อีวี ซึ่งในประเทศไทยคนที่ผลิตแบตเตอรี่นี้น่าจะไปอยู่ไม่กี่เจ้าเท่านั้น คำถามคือคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์สันดาปกว่า 12-13% ของจีดีพี และคนเป็นล้าน ๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ที่กำลังจะโดนสึนามิจากการลงทุนถล่มจะต้องทำอย่างไรต่อไป การเพิ่มมูลค่าที่อยู่ภายในประเทศของรถยนต์อีวีก็ยังน้อยกว่ารถยนต์สันดาปมาก การลงทุนในจีนที่ผ่านมาแม้จะเพิ่งส่งออกได้แค่ 2 ปี แต่ตอนนี้กลายเป็นเบอร์หนึ่งของโลกไปแล้ว นอกจากนี้ 8% ของการส่งออกรถปิกอัพของประเทศไทยก็ยังถูกขโมยไปโดยจีนด้วย

ขณะเดียวกันภาษีนำเข้ารถยนต์อีวีที่มีการลดหย่อนให้ไปถึง 0% ก็ไม่เหมือนกับที่เกาหลี ญี่ปุ่น และยุโรปได้รับ ถ้าต้องการจะสร้างอุตสาหกรรมอีวีเพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์จริงๆ ก็ไม่ควรที่จะเป็นแบบนี้

นายพิธา อภิปรายต่อไปถึงเรื่องของการลงทุน ซึ่งนายกรัฐมนตรีบอกว่าโตขึ้น 2.5 เท่าในไตรมาสที่ 4 ก็เป็นเรื่องจริงและเป็นเรื่องดี แต่ประเด็นที่ยังเป็นข้อเท็จจริงอีกประการคือการที่ประเทศไทยตอนนี้ยังอยู่ที่อันดับ 6 ในอาเซียน นำอยู่แค่กัมพูชา ลาว และเมียนมา แม้เศรษฐกิจไทยจะเติบโต แต่เมื่อเทียบกับประเทศอย่างฟิลิปปินส์มีการเติบโตถึง 7 เท่า ทุกประเทศเติบโตหมดและเติบโตเยอะด้วย ก็ขอเป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรีในการวางแผนและมีโรดแมป ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดการลงทุนที่เป็นประโยชน์กับภาคการผลิตของประเทศไทย ตามต่างประเทศให้ทัน ไม่ใช่นำแค่ประเทศเพื่อนบ้าน และไปกระทบกับเรื่องของเศรษฐกิจ รวมถึงเรื่องของการขาดดุลทั้งบัญชีการค้าและการทำงบประมาณด้วย

สำหรับภาคบริการ ซึ่งจะไม่พูดเรื่องการท่องเที่ยวก็คงไม่ได้ ถึงแม้นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเป็นเซลส์แมนดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศมามาก แต่กลับไม่ค่อยมีการผลักดันสิ่งที่อยู่ภายในประเทศเพื่อรองรับการเข้ามาของเม็ดเงินเหล่านี้ มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าการท่องเที่ยวของประเทศไทยกลับมาเติบโต แต่กว่า 80% ของการท่องเที่ยวยังคงเน้นอยู่แค่ 5 จังหวัด ไม่มีการสร้างสาธารณูปโภคที่ทำให้คนอยากจะไปให้มากกว่าแค่ 5 จังหวัด แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรถ้าการท่องเที่ยวมาใน 5 จังหวัด แต่คนที่อยู่ในจังหวัดเหล่านั้นต้องอยู่ท่ามกลางปัญหาขยะ มลพิษ มาเฟีย ยาเสพติด ส่วย และค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ

ตนเห็นด้วยกับนโยบาย Ignite Tourism Thailand แต่การปล่อยให้ 20% ของจีดีพีไปพึ่งปัจจัยของนักท่องเที่ยวเพียงไม่กี่กลุ่ม แล้วลืมว่าท่านเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทย ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของนักท่องเที่ยว ก็จะยิ่งก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำในภาคบริการมากขึ้น

“ท่านอย่ามองแต่เรื่องที่ต้องการจะให้เป็นบวก ท่านต้องมองให้ครบรอบด้าน ท่านอย่าไปมองแค่ราคา ไปดูคุณภาพชีวิตประชาชนด้วย อย่าไปมองแค่ปริมาณ แต่ต้องมองเรื่องเกี่ยวกับการเพิ่มมูลค่า ถ้าท่านมองแบบนี้ได้ผมก็คิดว่าปัญหามันจะทุเลาลง” พิธากล่าว

นายพิธา ยังอภิปรายต่อไปถึงเรื่องของสิ่งแวดล้อม ที่แม้นายกรัฐมนตรีจะยอมรับว่ามีปัญหาฝุ่น PM2.5 อยู่จริง แต่จุดความร้อนลดลงจากปีที่แล้ว นี่ก็เป็นข้อมูลที่เป็นบวกแต่ไม่รอบด้านอีกเช่นเคย เพราะในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา จุดความร้อนในภาคเหนือเพิ่มขึ้นทุกเดือนมีนาคม-เมษายน และในปีนี้ก็เช่นกันที่จุดความร้อนต่อวันในภาคเหนือเพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคม 2567 จึงไม่แน่ใจว่านายกรัฐมนตรีไปดูข้อมูลเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์มาหรือไม่ แล้วรู้สึกว่าปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว ถ้าท่านดูให้ถูกจุดแล้วยอมรับข้อเท็จจริงนี้ ท่านจะเห็นได้ว่าจุดความร้อนต่อวันไม่ได้ลดลง

สิ่งสำคัญและเป็นตัวเลขที่นายกรัฐมนตรียิ่งควรจะต้องดู ก็คือตัวเลขของคนที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ที่เป็นผู้ป่วยนั้นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งตัวเลขในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีจำนวนถึง 2 ล้านกรณีแล้ว ถ้าท่านเห็นข้อมูลที่ถูกต้อง ฟังเพื่อตอบสนองไม่ใช่เพื่อตอบโต้ ท่านจะรู้แล้วว่าเดือนมีนาคม-เมษายนที่จะถึงนี้ท่านต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ในเดือนหน้าหรือในช่วงหนึ่งปีที่จะถึงท่านจะต้องทำอย่างไรบ้าง

นายพิธา อภิปรายต่อไปถึงเรื่องการต่างประเทศ โดยระบุว่า การแก้ไขปัญหาภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การเผาข้าวโพด หรือแรงงานข้ามชาติ ฯลฯ จะทำไม่ได้เลยถ้าการต่างประเทศของไทยยังไม่รอบด้านเช่นนี้ โดยเฉพาะกรณีวิกฤตที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมา ท่านควรที่จะมีความเห็นที่รอบด้านและสามารถมีความสัมพันธ์กับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง เพื่อที่จะได้รับฟังข้อมูลอย่างครบถ้วน รอบด้าน และสามารถแก้ไขปัญหาได้

ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมี Inter Agency ภายในรัฐบาลที่เกี่ยวกับกรณีเมียนมาโดยเฉพาะ ซึ่งจะมาดูแลทั้งการมีความสัมพันธ์กับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง การทำระเบียงมนุษยธรรมที่ไม่ได้ทำให้นิยามของคำว่ามนุษยธรรมหายไป และไม่เป็นการส่งความช่วยเหลือไปให้กับแค่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทั้งหมดนี้ไม่ใช่นโยบายต่างประเทศเพื่อต่างประเทศ แต่เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศของเราเอง ทั้งแรงงานข้ามชาติ ไฟป่า การเผาในพื้นที่ชายแดน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฯลฯ

ถ้ารัฐบาลสามารถมีความสัมพันธ์กับทุกกลุ่มในเมียนมาได้อย่างรอบด้าน ไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มคนที่ยึดอำนาจเพียงอย่างเดียว ก็จะทำให้การแก้ไขปัญหาในต่างประเทศทำได้ดีขึ้น และกลับมาแก้ไขปัญหาในประเทศไทยที่ไม่มีทางแก้ไขได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน

สุดท้าย นายพิธาได้ให้ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล 3 ข้อ คือ

1) ถ้าอยากจะกอบกู้ภาวะผู้นำของรัฐบาล ตนคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องมีการปรับ ครม.ได้แล้ว วางคนที่เชี่ยวชาญในแต่ละเรื่องเข้ามาทำงานจริง ที่ผ่านมา 7 เดือนก็พอจะทำให้เห็นภาพได้แล้วว่าใครที่มีประสิทธิภาพ และใครที่ไม่มีประสิทธิภาพ

2) ถึงเวลาแล้วที่นายกรัฐมนตรีจะต้องมีโรดแมป วิสัยทัศน์ที่นายกรัฐมนตรีแถลงมา 8 ฮับ พูดอีกก็ถูกอีก หลายเรื่องพูดมา 20 กว่าปีแล้วก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะพูดแค่ว่าจะทำอะไร แต่ไม่ได้บอกว่าจะทำอย่างไรและเมื่อไหร่ ท่านต้องมีโรดแมปว่าในช่วงไตรมาสนี้จะทำอะไร ปีนี้จะทำอะไร สมัยนี้จะทำอะไร ซึ่งจะทำให้คนที่อยากจะช่วยท่านเห็นภาพร่วมกัน และทำให้การขับเคลื่อนเกิดผลลัพธ์ได้จริง

3) สิ่งที่สำคัญของคนที่เป็นผู้นำในศตวรรษที่ 21 คือการ “ฟัง” ซึ่งตนขอแนะนำนายกรัฐมนตรีว่าต้องฟังเพื่อที่จะตอบสนอง ไม่ใช่ฟังเพื่อที่จะตอบโต้ตลอดเวลา เพราะบางครั้งเสียงที่ท่านไม่อยากได้ยินก็คือเสียงที่ประเสริฐที่สุด ตามที่ท่านเคยได้กล่าวเอาไว้

60

SHARES
Share on Facebook
Post on X
Follow us
  • LINEแชร์เลย!
Tags: ก้าวไกล ประชุมสภา พิธา

Continue Reading

Previous: “พิมพ์ภัทรา” สั่งขนกลับกากพิษแคดเมียม
Next: สทนช. เตือน!!! เฝ้าระวังน้ำท่วมขังช่วงวันที่ 9-11 เม.ย.นี้

ข่าวอื่นๆ ที่น่าอ่าน

สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 21 ก.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 21 ก.ย. 68

21/09/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 21 กันยายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 21 กันยายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 21 กันยายน 2568

21/09/2025
ดวงประจำวัน ดวงประจำวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ.2568 1 min read
  • ดวงประจำวัน
  • HOT NEWS

ดวงประจำวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ.2568

21/09/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 20 ก.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 20 ก.ย. 68

20/09/2025
ส.กทอ. ยื่นขอทุนอนุรักษ์ฯ ทะลุ 1,070 โครงการ วงเงินกว่า 1.34 หมื่นล้าน ส.กทอ. ยื่นขอทุนอนุรักษ์ฯ ทะลุ 1,070 โครงการ วงเงินกว่า 1.34 หมื่นล้านบาท 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

ส.กทอ. ยื่นขอทุนอนุรักษ์ฯ ทะลุ 1,070 โครงการ วงเงินกว่า 1.34 หมื่นล้านบาท

20/09/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 20 กันยายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 20 กันยายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 20 กันยายน 2568

20/09/2025
ดวงประจำวัน ดวงประจำวันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ.2568 1 min read
  • ดวงประจำวัน
  • HOT NEWS

ดวงประจำวันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ.2568

20/09/2025
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังยังซึมต่อเนื่อง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังยังซึมต่อเนื่อง 2 min read
  • SPECIAL REPORT
  • HOT NEWS

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังยังซึมต่อเนื่อง

19/09/2025
สทนช.ยันระบายน้ำเหนือต่อเนื่องป้องกันน้ำท่วม สทนช.ยันระบายน้ำเหนือต่อเนื่องป้องกันน้ำท่วม 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สทนช.ยันระบายน้ำเหนือต่อเนื่องป้องกันน้ำท่วม

19/09/2025
ttb analytics คาดต้นทุนขนส่งต่อจีดีพีไทยปี 2568 ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ttb analytics คาดต้นทุนขนส่งต่อจีดีพีไทยปี 2568 ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน 1 min read
  • SPECIAL REPORT
  • HOT NEWS

ttb analytics คาดต้นทุนขนส่งต่อจีดีพีไทยปี 2568 ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

19/09/2025
IMG_20250907131310000000 โรดแมป 4 เดือน “รัฐบาลอนุทิน” 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • SPECIAL REPORT

โรดแมป 4 เดือน “รัฐบาลอนุทิน”

19/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์ 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์

19/09/2025

China News

แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน 1 min read
  • CHINA NEWS
  • HOT NEWS

แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน

14/05/2025
LINEแชร์เลย! สถาบันการเงินรายใหญ่ได้พากันปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของจีนในปีนี้ หลังจากจีนและสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 พ.ค.)... อ่านต่อ

Start Up

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต 457C5A49-7DCB-4EA0-ACF5-B856D1843534 1 min read
  • HOT NEWS
  • START UP

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต

01/09/2022
LINEแชร์เลย! “ขอบคุณ ธพว. ที่สนับสนุน “เสียงเกษมโซล่าเซลล์” พาเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมสภาพคล่องกิจการ ควบคู่กับการให้คำปรึกษา แนะนำธุรกิจ... อ่านต่อ

Money Movement

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์

19/09/2025
กสิกรไทยลุยจีนสแกนจ่ายได้ทุกที่ กสิกรไทยลุยจีนสแกนจ่ายได้ทุกที่
1 min read
  • MONEY MOVEMENT

กสิกรไทยลุยจีนสแกนจ่ายได้ทุกที่

18/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์

18/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์

17/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์

16/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์

กสิกรไทยลุยจีนสแกนจ่ายได้ทุกที่

กสิกรไทยลุยจีนสแกนจ่ายได้ทุกที่

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์

Energy Force

“ไซยะบุรี พาวเวอร์” รับเหรียญชัยแรงงานจาก สปป.ลาว "ไซยะบุรี พาวเวอร์" รับเหรียญชัยแรงงานจาก สปป.ลาว 1 min read
  • ENERGY FORCE
  • HOT NEWS

“ไซยะบุรี พาวเวอร์” รับเหรียญชัยแรงงานจาก สปป.ลาว

11/09/2025
LINEแชร์เลย! บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) บริษัทร่วมในเครือของ บริษัท ซีเค... อ่านต่อ

Politics

IMG_20250907131310000000 โรดแมป 4 เดือน “รัฐบาลอนุทิน” 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • SPECIAL REPORT

โรดแมป 4 เดือน “รัฐบาลอนุทิน”

19/09/2025
548313824_814042087644454_7977143485878694664_n กองทัพภาคที่ 1 ประกาศ ยกระดับจัดการกัมพูชาละเมิดเขตแดน 1 min read
  • HOT NEWS
  • POLITICS

กองทัพภาคที่ 1 ประกาศ ยกระดับจัดการกัมพูชาละเมิดเขตแดน

18/09/2025
550196835_1414206843816415_6147802706000758168_n “สระแก้ว” ระดมตำรวจชุด คฝ. 3 จังหวัด คุมชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

“สระแก้ว” ระดมตำรวจชุด คฝ. 3 จังหวัด คุมชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว

18/09/2025

ประเด็นข่าว

EXIM BANK KBANK scb SME D Bank กรมชลประทาน กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงไทย กสิกรไทย กอนช. ข่าวเด่น ข่าวดัง คปภ. ครม. ค่าเงินบาท ดวงประจำวัน ตลาดหุ้น ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธอส. นายฉัตรชัย ศิริไล นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ บก.ชวนคุย บางจาก ปตท. ประเมินค่าเงินบาท พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเลเซีย รัฐบาล ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน สถานการณ์น้ำ สรุปข่าวประจำวัน สรุปสถานการณ์น้ำ สิงคโปร์ อาจารย์มงคล รอดเที่ยงธรรม เศรษฐกิจไทย เศรษฐา ทวีสิน แพทองธาร ชินวัตร โควิด-19 ไทยพาณิชย์

Business Movement

SME D Bank เสริมคึกคัก ในงาน ‘SME D Market’ 25-26 ก.ย. นี้ SME D Bank เสริมคึกคัก ในงาน ‘SME D Market’ 25-26 ก.ย.นี้ 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

SME D Bank เสริมคึกคัก ในงาน ‘SME D Market’ 25-26 ก.ย.นี้

20/09/2025
เปิดรับสมัครแล้ว! PIM International Hackathon #5 ชิงทุนการศึกษากว่า 2 แสนบาท เปิดรับสมัครแล้ว! PIM International Hackathon #5 ชิงทุนการศึกษากว่า 2 แสนบาท 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

เปิดรับสมัครแล้ว! PIM International Hackathon #5 ชิงทุนการศึกษากว่า 2 แสนบาท

19/09/2025
บัญชีกลางโอนซ้ำ 3 รอบ เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุรายได้น้อย ไม่สำเร็จโทร Call Center บัญชีกลางโอนซ้ำ 3 รอบ เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุรายได้น้อย ไม่สำเร็จโทร Call Center 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

บัญชีกลางโอนซ้ำ 3 รอบ เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุรายได้น้อย ไม่สำเร็จโทร Call Center

19/09/2025
ธอส. ครบ 6 รอบ 72 ปี ส่งมอบบ้านให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ  ธอส. ครบ 6 รอบ 72 ปี ส่งมอบบ้านให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ  1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ธอส. ครบ 6 รอบ 72 ปี ส่งมอบบ้านให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ 

18/09/2025

Recommend

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ

16/08/2025
"จุลพันธ์" มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง  “จุลพันธ์” มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง  1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

“จุลพันธ์” มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง 

13/08/2025
ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง

11/08/2025
"ทรัมป์" ยินดี ไทยหยุดยิงกัมพูชา “ทรัมป์” ยินดี ไทยหยุดยิงกัมพูชา 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

“ทรัมป์” ยินดี ไทยหยุดยิงกัมพูชา

29/07/2025

Photo Stories

กรรมการผู้จัดการ ธอส. คว้ารางวัล DAILYNEWS TOP CEO 2025  กรรมการผู้จัดการ ธอส. คว้ารางวัล DAILYNEWS TOP CEO 2025  1 min read
  • PHOTO STORIES

กรรมการผู้จัดการ ธอส. คว้ารางวัล DAILYNEWS TOP CEO 2025 

20/09/2025
กสิกรไทย - DKSH - วีซ่า ผนึกกำลังยกระดับโซลูชันรับชำระเงินครบวงจร กสิกรไทย – DKSH – วีซ่า ผนึกกำลังยกระดับโซลูชันรับชำระเงินครบวงจร 1 min read
  • PHOTO STORIES

กสิกรไทย – DKSH – วีซ่า ผนึกกำลังยกระดับโซลูชันรับชำระเงินครบวงจร

19/09/2025
บางปะอิน โคเจนฯ รับประกาศนียบัตรฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นต์ บางปะอิน โคเจนฯ รับประกาศนียบัตรฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นต์ 1 min read
  • PHOTO STORIES

บางปะอิน โคเจนฯ รับประกาศนียบัตรฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นต์

19/09/2025
EXIM BANK ต้อนรับองค์กรการพัฒนาการส่งออกแคนาดา EXIM BANK ต้อนรับองค์กรการพัฒนาการส่งออกแคนาดา 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK ต้อนรับองค์กรการพัฒนาการส่งออกแคนาดา

18/09/2025
SCB Academy เปิดตัว “AFAST Smart University” SCB Academy เปิดตัว “AFAST Smart University” 1 min read
  • PHOTO STORIES

SCB Academy เปิดตัว “AFAST Smart University”

18/09/2025
สรรพากรเข้าร่วมการประชุม SGATAR ครั้งที่ 54 ณ เมืองบริสเบน เครือรัฐออสเตรเลีย สรรพากรเข้าร่วมการประชุม SGATAR ครั้งที่ 54 ณ เมืองบริสเบน เครือรัฐออสเตรเลีย 1 min read
  • PHOTO STORIES

สรรพากรเข้าร่วมการประชุม SGATAR ครั้งที่ 54 ณ เมืองบริสเบน เครือรัฐออสเตรเลีย

18/09/2025
การออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. งวดวันที่ 16 ก.ย. 2568 การออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. งวดวันที่ 16 ก.ย. 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

การออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. งวดวันที่ 16 ก.ย. 2568

17/09/2025
กรรมการผู้จัดการ ธอส. เป็นประธานออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ก.ย.68 กรรมการผู้จัดการ ธอส. เป็นประธานออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ก.ย.68 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรรมการผู้จัดการ ธอส. เป็นประธานออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ก.ย.68

16/09/2025
SAM เปิดประมูลทรัพย์มือสองกว่า 170 ลบ. ไฮไลท์กลางโคราช SAM เปิดประมูลทรัพย์มือสองกว่า 170 ลบ. ไฮไลท์กลางโคราช 1 min read
  • PHOTO STORIES

SAM เปิดประมูลทรัพย์มือสองกว่า 170 ลบ. ไฮไลท์กลางโคราช

15/09/2025
คปภ. ประกาศผลประกวด “Insurefluencer 2025” และ “School Media Creator Award” คปภ. ประกาศผลประกวด “Insurefluencer 2025” และ “School Media Creator Award” 1 min read
  • PHOTO STORIES

คปภ. ประกาศผลประกวด “Insurefluencer 2025” และ “School Media Creator Award”

15/09/2025
ไทยยูเนี่ยน–กสิกรไทย เปิดตัว “Blue Finance Linked FX Forward” ครั้งแรกในไทย ไทยยูเนี่ยน–กสิกรไทย เปิดตัว “Blue Finance Linked FX Forward” ครั้งแรกในไทย 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไทยยูเนี่ยน–กสิกรไทย เปิดตัว “Blue Finance Linked FX Forward” ครั้งแรกในไทย

15/09/2025
กรมสรรพากรเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568 กรมสรรพากรเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรมสรรพากรเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568

14/09/2025
ไอแบงก์ จับมือ EXIM BANK คว้ารางวัลเลิศรัฐ 2568 ไอแบงก์ จับมือ EXIM BANK คว้ารางวัลเลิศรัฐ 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไอแบงก์ จับมือ EXIM BANK คว้ารางวัลเลิศรัฐ 2568

13/09/2025
คปภ. คว้ารางวัล “องค์กรผู้สนับสนุนบอร์ดเกม” คปภ. คว้ารางวัล “องค์กรผู้สนับสนุนบอร์ดเกม” 1 min read
  • PHOTO STORIES

คปภ. คว้ารางวัล “องค์กรผู้สนับสนุนบอร์ดเกม”

12/09/2025
กรมบัญชีกลาง จัดพิธีมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ดีเด่น กรมบัญชีกลาง จัดพิธีมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ดีเด่น 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรมบัญชีกลาง จัดพิธีมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ดีเด่น

12/09/2025

บก.ชวนคุย

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 1 min read
  • HOT NEWS
  • EDITOR TALK

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568

25/02/2025
LINEแชร์เลย! บก.ชวนคุย เรื่องที่ 4,391 แอพเงินกู้แหล่งทุนยุคเศรษฐกิจดิจิทัล  ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และความท้าทายทางการงาน การเงิน คนไทยมากกว่า... อ่านต่อ

ติดต่อเรา

สนใจร่วมงานกับเรา Aec10news.com คลิ๊กติดต่อเรา รับซื้อ..รายงาน สกู๊ป บทความ รายได้สูง !!!

  • Facebook
  • Twitter
สงวนลิขสิทธิ์ © 2560 เว็บไซต์ AEC10NEWS.COM