ม็อบบุก กทม. ค้านเปิดสถานบริการถึงตี 4
ม็อบบุก กทม.คัดค้านเปิดสถานบริการถึงตี 4
(23 พ.ย.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับหนังสือจากเครือข่ายชุมชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภาคีป้องกันและลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เครือข่ายองค์กรงดเหล้า เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านนโยบายขยายเวลาเปิดสถานบริการถึงเวลา 04.00 น. ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
นายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ทางกลุ่มภาคีเครือข่ายภาคประชาชนและกลุ่มผู้ประสบอุบัติภัยจากปัจจัยเสี่ยง ได้มายื่นข้อเสนอให้กับกรุงเทพมหานคร ว่าไม่เห็นด้วยกับการเปิดผับบาร์ถึงตี 4 เพราะว่ามีอยู่ 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือไม่เห็นด้วยว่าจะมีผลกระตุ้นต่อเศรษฐกิจ ประเด็นต่อมาเป็นเรื่องของยาเสพติด เรื่องเมาแล้วขับ มีเด็กเยาวชนที่อาจจะเข้าไปในสถานบริการเหล่านี้ อาจจะเกิดผลกระทบต่อชุมชนต่างๆ รวมถึงการนั่งดื่มเกินเวลา การขายแอลกอฮอล์ให้กับกับผู้ที่เมาหมดสภาพแล้ว ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้กรุงเทพมหานครจะรับไว้ โดยในประเด็นแรกจะนำไปประสานกับทางมหาดไทยว่าประชาชนมีความรู้สึกอย่างไร มีการประเมินผลต่างๆ ให้รอบคอบ
ประเด็นที่ 2 จะดำเนินการควบคู่ไปเลย ไม่ต้องรอ เพราะอาจจะมีความรุนแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด กระท่อม กัญชา ทั้งในและนอกสถานบริการ เรื่องการดื่มสุราในสถานบริการจนเกินเวลา เรื่องเมาแล้วขับต่างๆ โดยจะร่วมมือกับทางเครือข่าย ส่วนยาเสพติดจะร่วมมือกับทางชุมชนที่มาในวันนี้ ซึ่งได้รับผลกระทบจากยาเสพติด และจะนำผลที่ได้ไปขยายผลกับชุมชนอื่นต่อไป ขอบคุณเครือข่ายที่มาในวันนี้ เป็นการรับฟังความเห็นจากประชาชนในอีกแง่มุมหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง จะนำข้อมูลเสนอทางมหาดไทยและจะพิจารณาหาข้อสรุปต่อไป
สำหรับข้อเสนอของเครือข่ายที่ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีดังนี้ 1.ขอแสดงความผิดหวังและเสียใจกับจุดยืนของผู้ว่าฯ กทม. ที่สนับสนุนการขยายเวลาเปิดผับบาร์ถึง 04.00 น. และขอคัดค้านการขยายเวลาดังกล่าวในพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะเสี่ยงเพิ่มอุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท คุกคามทางเพศ ปัญหาสุขภาพ กระทบกับการใช้ชีวิตของคนทำมาหากินในช่วงเวลาดังกล่าว 2.กรุงเทพฯ ไม่ควรใช้การท่องเที่ยวผับบาร์กินดื่มมาเป็นจุดขาย แต่ควรมุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทุกกลุ่ม 3.ขอให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด จริงจัง กับสถานบริการและสถานประกอบการที่คล้านสถานบริการทุกแห่งที่ทำผิดกฎหมาย มียาเสพติด ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็ก และให้เด็กเข้าใช้บริการ พบการพนัน ค้ามนุษย์ หรือเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยนำคำสั่ง คสช.22/2558 มาบังคับใช้อย่างจริงจังเพื่อสั่งปิด 5 ปี หากอยู่นอกเขตโซนนิ่ง หรือปิดถาวรหากอยู่ในเขตโซนนิ่งใกล้สถานศึกษา และขอให้มีการเปิดพื้นที่รับแจ้งเหตุเป็นการเฉพาะ