สภาพัฒน์ ชง ยุบ ปยป.สมศักดิ์ ยื้อ
“รองนายกฯสมศักดิ์” ต่อลมหายใจ ป.ย.ป. หลัง”สภาพัฒน์”ประเมินผลงานให้ยุบทิ้ง ชี้ งานซ้ำซ้อน แนะทางออก หาภารกิจใหม่
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับ นางชุติมา หาญเผชิญ ผู้อำนวยการสำนักงานขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ ป.ย.ป. นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ รองเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงผลการประเมินความคุ้มค่าของสำนักงาน ป.ย.ป. หลังครบกำหนด 5 ปี จากที่จัดตั้งตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 19/2561 เมื่อวันที่ 26 พ.ย.61 ซึ่งผลการประเมินโดยสภาพัฒน์ เห็นว่า ป.ย.ป. ขาดความคุ้มค่าการปฎิบัติภารกิจของรัฐ เนื่องจากมองว่า ผลการดำเนินงานของ ป.ย.ป. เป็นภารกิจของหน่วยงานอื่นที่มีการดำเนินงานอยู่แล้วทั้งสิ้น จึงมีความซ้ำซ้อน รวมถึงยังไม่มีการให้บริการประชาชนโดยตรง ถึงแม้จะมีการช่วยขับเคลื่อนกฎหมายใหม่ แต่ก็ยังไม่พบว่า ประชาชนได้ประโยชน์ที่ชัดเจน
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนหน่วยงานอื่นที่ร่วมประเมินความคุ้มค่า ก็ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ควรเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลว่า ควรยุบ ป.ย.ป.หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร โดยเมื่อตนได้รับฟังทุกภาคส่วนแสดงความคิดเห็นแล้ว ก็เห็นทางออกว่า ถ้าตนหางานให้ ป.ย.ป.ขับเคลื่อน และสามารถหารายได้เข้าประเทศได้ จะถือว่า ป.ย.ป.มีผลงานและผ่านการประเมินของสภาพัฒน์หรือไม่ เพราะในอดีต ขณะตนดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ก็ได้ขับเคลื่อนแก้กฎหมายยาเสพติด 24 ฉบับ มาเป็นฉบับเดียว จนนำไปสู่การยึดอายัดทรัพย์เข้าประเทศหลักหมื่นล้านบาท ดังนั้น ตนสามารถมอบหมายให้ ป.ย.ป.บูรณาการแก้กฎหมาย เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศได้
“ผมมองเห็นปัญหา เพราะอยู่มาแล้วหลายกระทรวง จึงอยากให้โอกาส ป.ย.ป. ลองแสดงฝีมืออีกหน่อย โดยทำกฎหมายอีก 2-3 ฉบับ ก็น่าจะหาเงินเข้าประเทศได้ เพราะผมมองว่า การปฎิรูป หรือ บูรณาการแล้ว ประเทศต้องดีขึ้น เช่น มีรายได้เข้าประเทศมากขึ้น หรือ เก็บภาษี มีคนมาท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เราต้องยอมรับการประเมินของสภาพัฒน์ แต่ก็ต้องมาดูว่า ถ้างานหมด หรือ งานซ้ำซ้อน ก็ต้องหางานให้ใหม่ โดยผมได้มอบหมายให้ ป.ย.ป. ไปบูรณาการกฎหมายส่งเสริมปศุสัตว์ โดยเฉพาะกีฬาสัตว์ ซึ่งผมมองว่า ทำกฎหมายเพียง 6 เดือน แต่จะสามารถหาเงินเข้าประเทศได้กว่า 6 หมื่นล้านบาท จากการเก็บภาษีคนเล่นกีฬาสัตว์ มีรายได้จากการท่องเที่ยว ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาชมได้ รวมถึงสามารถยกระดับสัตว์ให้มีมูลค่าเหมือนม้าของสหรัฐอเมริกาได้ โดยผมเห็นว่า การทำกฎหมายนี้ อาจจะสามารถเป็นภารกิจของ ป.ย.ป. ที่จะมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน ซึ่งร่างกฎหมายนี้ ได้เสนอ ครม.ในเบื้องต้นแล้ว” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว