ชัชชาติ จับมือ บิ๊กโจ๊ก แก้ไขปัญหาจราจร
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กาง 7 ข้อ จับมือ สตช. แก้ไขปัญหาจราจร
(8 พ.ย.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ตรวจสภาพการจราจรบริเวณแยกซังฮี้ เขตดุสิต ถึงแยก จปร. เขตพระนคร
นายชัชชาติ กล่าวว่า เป็นความร่วมมือกันระหว่างกทม. กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องการจราจร จริงๆ แล้วการจราจรเป็นปัญหาต่อเนื่อง และเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ในการดูแลเรื่องการจราจร เนื่องจากมีผลทั้งในเรื่องของความสะดวก รวมทั้งฝุ่น PM2.5 จากการตรวจสภาพการจราจรพบว่า ปัญหาการจราจรคือผังเมือง ประชาชนอาศัยอยู่ฝั่งธนบุรี แต่แหล่งงาน แหล่งการศึกษาอยู่ฝั่งกรุงเทพฯ ดังนั้นการจราจรจะเป็นคอขวดอยู่บริเวณสะพาน ไม่ว่าจะสะพานซังฮี้ สะพานพระราม 8 สะพานพระปิ่นเกล้า แนวคิดก็คือทำรถไฟฟ้าให้เยอะขึ้น ขณะเดียวกันก็มีแนวคิดทำท่าเรือข้ามฝาก แต่คงต้องศึกษาแนวทางเพื่อพยายามบรรเทาปัญหาการจราจร และได้ข้อสรุป 7 ข้อ ที่ต้องร่วมดำเนินการกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ข้อแรก เรื่องการกวดขันวินัยจราจร เรื่องนี้ต้องช่วยกันเต็มที่ กทม.จะจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจร่วมกวดขันวินัยจราจร เช่น จอดรถในที่ห้ามจอด หรือไม่หยุดตามจังหวะสัญญาณไฟจราจร
ข้อ 2 เรื่องจุดฝืด กทม.จะกำหนดจุดฝืด ในแต่ละเขตว่ามีจุดฝืดกี่แห่ง กี่จุด และจะขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจในการอำนวยความสะดวกการจราจร
ข้อ 3 เรื่องรถบรรทุกที่วิ่งผิดเวลา วิ่งนอกเวลา ต้องฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกวดขัน
ข้อ 4 รถบรรทุกที่บรรทุกของหนัก น้ำหนักเกิน เนื่องจากปล่อยควันพิษ และฝุ่น PM2.5
ข้อ 5 การบริหารจัดการช่องการจราจร บริเวณโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าในพื้นที่
ข้อ 6 กทม. จะช่วยเรื่องอุปกรณ์ เช่น ติดตั้งกล้อง CCTV ติดตั้งสัญญาณไฟอัจฉริยะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีข้อมูลที่เป็นภาพรวม
และข้อ 7 ตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่าง กทม. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาจจะประชุมร่วมกันทุกวันศุกร์ เพื่อติดตามสถานการณ์และหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา ถ้าทั้ง 2 หน่วยงานร่วมมือกัน แม้อาจจะแก้ไขไม่ได้ 100% แต่อย่างน้อยปัญหาการจราจรบรรเทาแน่นอน
“รถบรรทุกที่บรรทุกน้ำหนักเกิน ที่เข้ามาในไซต์งานก่อสร้าง ต้องทำการตรวจสอบน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ หาก กทม. ตรวจพบจะสั่งหยุดการก่อสร้าง เพราะทำให้เกิดความเสียหายหลายด้าน ทั้งผิวการจราจรชำรุด ปล่อยควันพิษ และฝุ่นPM2.5” นายชัชชาติ กล่าว