โรดแมปทักษิณกลับบ้าน รัฐบาลเพื่อไทยติดปีก
โรดแมปทักษิณกลับบ้าน รัฐบาลเพื่อไทยติดปีก
10 สิงหาคม 2566 หากไม่มีอะไรผิดพลาดไปจากนัดหมาย “ทักษิณ ชินวัตร” จะเดินทางกลับประเทศไทยครั้งแรกในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่นายทักษิณ ก้มกราบแผ่นดินแม่ในปี 2551 ในยุครัฐบาลพรรคพลังประชาชน ที่มี “สมัคร สุนทรเวช” เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อนายทักษิณกลับมาแล้วก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม-เรือนจำ เพราะมีคดีที่เป็นชนักปักหลังนายทักษิณ มีทั้งคดีถึงที่สุด-แพ้คดี 4 คดี รวมจำคุก 12 ปีอย่างไรก็ดี การกลับบ้านของนายทักษิณในช่วงที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมีลูกสาวคนเล็ก-อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ทั้งนายทักษิณและรัฐบาลเพื่อไทยเปรียบเสมือนเป็นพยัคฆ์ติดปีกนายทักษิณจะกลับมาเป็นทั้งพ่อ-ที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลเพื่อไทยผู้เป็นลูกได้บริหารประเทศ ทั้งเศรษฐกิจและการต่างประเทศได้อย่างใกล้ชิด ไม่ว่านายทักษิณจะขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการส่วนตัวหรือไม่นายทักษิณ พเนจรอยู่ต่างประเทศมา 17 ปีเต็ม เขาเคยให้เปิดใจว่า เปรียบเสมือนติดคุก ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเขาประกาศโรดแมปการกลับบ้านทั้งพูดเอง-พูดแทน และอย่างเป็นทางการ-ทีเล่นทีจริง อย่างน้อย 16 ครั้งครั้งแรก วันที่ 4 มกราคม 2565 นายทักษิณกล่าวในรายการ CareTalk X CareClubHouse ตอน “ถอดบทเรียนสึนามิ สู้วิกฤตประเทศ กู้เศรษฐกิจอับปาง” ว่า “อยากอวยพร ไม่รู้ว่าเป็นการอวยพรหรือสาปแช่งคนที่ไม่ชอบหน้าผมหรือเปล่า ผมจะอวยพรวว่า ขอให้ได้ผมกลับบ้าน เพื่อเอาไปใช้งาน ผมกลับบ้านผมต้องการ หนึ่ง เลี้ยงหลาน สอง มีเวลาเหลือ ใครเป็นรัฐบาลก็ช่าง ถ้าอยากใช้ผมคิด ให้ผมช่วยคิด ช่วยวิเคราะห์ ช่วยแก้ปัญหาให้ พร้อม ไม่คิดตังค์ สาม จะรับจ้างบรรยาย ใครเชิญไปบรรยายที่ไหนก็ไป ให้โอเลี้ยงแก้วก็พอแล้ว อันที่สี่ ผมจะไปชวนบรรดาเศรษฐีในเมืองไทยทั้งหลายมาลงขัน ช่วยส่งเสริมสตาร์ทอัพ ทำแอปพ์ช่วยชาวบ้านระหว่างคนทำงานกับคนหางาน ทำแอปฟ์ให้แท็กซี่แข่งกับอูเบอร์ ทำแอปพ์โฮมสเตย์ช่วยชาวบ้าน”“ไม่ต้องห่วงครับ ใครที่ด่าผมไว้เยอะแยะ ไม่ต้องกลัวหรอก ผมไม่ทำอะไรหรอก ผมก็ไม่ด่ากลับหรอก ผมก็จะกลับไปอย่างสันติ ผมกลับไปไม่เป็นปัญหากลับประเทศไทยแน่ แต่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและคนไทย ถ้าผมจะไปเดินชนกับผู้นำประเทศไหน ไปเจรจากันทางลับ ยินดีหมด ถ้าผมกลับไปแล้ว ผมทำอะไรได้เยอะ”“หวังว่า ปีนี้ ปี 65 ผมจะเป็นของขวัญให้คนไทย ไปทำงานรับใช้คนไทยและประเทศไทย แล้วไปช่วงไหน เมื่อไหร่ ผมจะกระซิบน้องอิ๊งค์คนเดียว น้องอิ๊งค์จะเป็นคนบอกคนเดียว คนอื่นไม่บอก บอกไม่ได้ เป็นความลับ มาแล้วไม่เป็นภาระคนไทยแน่นอน กลับไปผมก็ไปเป็นเพื่อนตีกอล์ฟกับประยุทธ์ได้ เพียงแต่ตีไม่เก่งเท่าประยุทธ์”
ครั้งที่สอง วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 – วันเกิดครบ 73 ปี ของนายทักษิณ ได้ปล่อยคลิปวิดีโอความยาว 10 นาทีเศษ ชื่อ Long distance call ว่า “ผมตัดสินใจที่จะกลับเมืองไทย เพราะว่า คุณหญิงรับภาระแทนผมเยอะ สงสาร ถ้าผมได้กลับไปอยู่กับครอบครัวแล้ว มันก็จบ ผมก็ต้องทำตัวให้แข็งแรงขึ้นเพื่อชดเชยเวลาที่หายไป”
“ผมเองผมสั่งครอบครัวแล้วนะ ตายไม่เผา ให้เก็บไว้ ให้เก็บร่างไว้ ไม่ให้เผา นี่คือสิ่งที่ผมต้องการให้การต่อสู้ของผม ให้ชีวิตผมเป็นอมตะของครอบครัว ของลูกหลาน”ครั้งที่สาม วันที่ 30 สิงหาคม 2565 นายทักษิณกล่าวในรายการ … ตอน “ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้วยังไงต่อ?” ว่า “ถ้าประยุทธ์ต้องลี้ภัย ก็มาเช่าบ้านผมอยู่ได้ แล้วผมจะกลับไปเมืองไทยแทน … 73 แล้ว เลี้ยงหลานแล้ว”ครั้งที่สี่ วันที่ 13 กันยายน 2565 นายทักษิณพูดกล่าวในรายการ CareTalk x CareClubHouse ตอน “นโยบายเกษตร-Soft Power ของเพื่อไทย ทำอย่างไรให้ปังเหมือนไทยรักไทย” ว่า “สำหรับผมเองจะกลับบ้าน ไม่มีหมากอะไรหลายชั้น ไม่ต้องคิดว่าผมจะให้รัฐบาลเพื่อไทยเสนออะไรต่ออะไร นิรโทษกรรม ไม่มี ผมหมากชั้นเดียว ตื้น ๆ กลับคือกลับ ไม่กลับคือไม่กลับ แค่นั้น”ครั้งที่ห้า วันที่ 17 ตุลาคม 2565 ออกรายการ “ไกลบ้าน” ทางช่องยูทูป อยากกลับบ้านไปเลี้ยงหลาน ว่า “ตอนที่ลูก ๆ เขาเอาหลานมา อยู่กับหลานแล้วมีความสุข เราก็อยากมีโอกาส เพราะพ่อแม่เขาก็ต้องทำงาน เราจะได้อยู่บ้าน สอนเข้าบ้าง สปอยเขาบ้าง”
“อยากอยู่กับหลาน เป็นที่ปรึกษาให้ลูกบ้าง สงสารคุณหญิง เพราะเราเคยอยู่ด้วยกันมา เราอยู่ทางนี้ นาน ๆ ก็เหงา อยากแบ่งเบาภาระคุณหญิง วันนี้ผมต้องฟิตร่างกาย ให้ยาว ต่ออายุได้อีก 16 ปี เพราะเป็น 16 ปีที่สูญเสียไป ต้องเอาคืนให้ได้ เอาคืนด้วย good health”
ครั้งที่หก วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 นายทักษิณ กล่าวระหว่างออกรายการ CareTalk x CareClubHouse ตอน “ที่ดิน สุรา กัญชา มั่วเต็มคาราเบล ทำนโยบายสาธารณะไม่เป็น หรือเห็นแก่เงินของใคร” ว่า “น้องอิ๊งค์มาเยี่ยม เอาหลานมา ไม่ได้เอามาคนเดียว มา 2 คน คนหนึ่งอยู่ในท้อง อีกคนหนึ่งอุ้มมา ผมกำลังจะมีหลานคนที่ 7 แล้วนี่ คนที่ไม่ชอบหน้าผม ไม่สงสารผมเหรอ อยากกลับไปเลี้ยงหลานแล้ว ไม่เห็นใจผมอยากไปเลี้ยงหลานบ้างเหรอ”
ครั้งที่เจ็ด วันที่ 25 ตุลาคม 2565 นายทักษิณกล่าวออกรายการ CareTalk x CareClubHouse ตอน “พวกเธอมานี่ พี่โทนี่ จะรีวิวหนังสือ !!” ว่า “ผมขอแสดงความยินดีกับตัวเอง ได้เป็นคุณปู่ป้ายแดง ได้อยู่จนเป็นปู่แล้วนะ เพราะเป็นตามา หลาน 4 คน โอ๊คได้ลูก 2 คน ก็ได้เป็นปู่สักที ก็รอมานาน 6 คนแล้วนะ หลาน อยากกลับบ้านไปเลี้ยงหลานละ ก็รออีกนิดหนึง เดี๋ยวกลับบ้านไปเลี้ยงหลาน”ครั้งที่แปด วันที่ 15 มกราคม 2566 อุ๊งอิ๊ง ประกาศนายทักษิณจะกลับมาเลี้ยงหลาน ที่เวทีปราศรัยจังหวัดอุดรธานี ว่า “เอาลุงกลับบ้านไปเพื่อไทยมาแล้ว เอาลุงกลับไปเลี้ยงหลาน ลุงโทนี่ก็น่าจะกลับมาเลี้ยงหลานบ้าง”
ครั้งที่เก้า วันที่ 25 มกราคม 2566 นายทักษิณ กล่าวผ่านรายการ CareTalk x CareClubHouse ตอน “มีเรื่องคาใจ ก็ถามมาเลอ !” ว่า
“พูดเรื่องกลับบ้าน ขออภัยที่ผมเคยพูดไว้ว่าจะกลับ พ.ศ.ที่แล้ว (2565) ผมพยายามอย่างยิ่ง ผมไปทำอ๊อกซิเจนเพื่อให้เสร็จก่อนเวลา ก่อนสิ้นปี เพื่อที่จะกลับให้ทัน แต่สถานการณ์มัน ลูกเขาห่วงเรื่องความปลอดภัย ก็เลยยังกลับไม่ได้ แต่ยังไงผมก็จะกลับ อยู่เมืองนอกนาน พวกใส่ร้ายป้ายสีก็เยอะขึ้น แล้วพวกกล่าวหาทางคดีก็มายัดให้เรา ให้การเท็จแก่เรา เพราะงั้นกลับไปดีกว่า สบายมาก แล้วผมกลับไปนะ ย้ำไว้นะ ไม่อาศัยพรรคการเมืองใด ๆ รวมทั้งพรรคเพื่อไทยด้วย อาศัยหัวใจตัวเอง ไม่ต้องกังวลผม แล้วยังไง”“ย้ำอีกครั้งว่า น้องอิ๊งค์จะเป็นคนประกาศ ว่าผมจะกลับเมื่อไหร่ อย่างไร รับรองไม่มีการออกกฎหมาย อย่างไปคิดว่าจะเกี้ยเซียะกับพลังประชารัฐเพื่อขอกลับ ไม่มี ชีวิตผมเกิดจากการสร้างตัวเองมาตลอด ไอ้เรื่องง้อคน คงยาก แต่เป็นคนที่มีน้ำใจ คบคนได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่สะบัดตูดจากผมไปแล้วจะมาให้ผมง้อ ไม่มีทาง ไม่ใช่ผม“ผมเป็นคนช่วยตังเองได้ เพราะฉะนั้นเที่ยวนี้กลับบ้าน ลูกสาวผมจะเป็นคนบอกเอง ว่า ผมจะกลับเมื่อไหร่ ผมต้องกลับ ไม่กลับไม่ไหว เพราะโดนกลั่นแกล้งอยู่ตลอดเวลา เอามันเลย หมดเรื่อง ยังไงก็ได้ ปีนี้ 74 แล้วนา”
ครั้งที่สิบ วันที่ 24 มีนาคม 2566 นายทักษิณให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเกียวโด (Kyodo) สำนักข่าวญี่ปุ่น พร้อมจะกลับมารับโทษ หากได้รับอนุญาต
ครั้งที่สิบเอ็ด วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 นายทักษิณทวิตเตอร์ ว่า “เช้าวันนี้ ผมดีใจมากที่ได้หลานคนที่ 7 เป็นชาย ชื่อ ธาษิณ จากน้องอิ๊งค์ แพทองธาร หลานทั้ง 7 คน คลอดในขณะที่ผมต้องอยู่ต่างประเทศ ผมคงต้องขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน เพราะผมอายุจะ 74 ปี กรกฎาคมนี้แล้ว พบกันเร็ว ๆ นี้ ครับ ขออนุญาตนะครับ”
ครั้งที่สิบสอง วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 – ก่อนการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 66 นายทักษิณทวิตเตอร์ ว่า “ผมขออนุญาตอีกครั้ง ผมตัดสินใจแล้วว่าจะกลับบ้านไปเลี้ยงหลานภายในเดือนกรกฎาคมนี้ก่อนวันเกิดผมครับ ขออนุญาตนะครับ เกือบ 17 ปีแล้วที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัว ผมก็แก่แล้วครับ”
ครั้งที่สิบสาม วันที่ 16 พฤษภาคม 2566 นายทักษิณกล่าวผ่านรายการ CareTalk x CareClubHouse ตอน “เมืองไทยหลังเลือกตั้ง” ว่า “ไม่เกี่ยวเลย คนละเรื่องเลย ผมอยากเลี้ยงหลาน ผมคิดถึงหลานผม โอ้ย มีหลานเจ็ดคน วัยอย่างผมเขาเรียกว่า วัยรักลูกหลงหลาน ลองเอาหลานมาอยู่ใกล้ ๆ จะมีความสุขมาก มันบริสุทธิ์ เวลาเราอยู่กับสิ่งที่บริสุทธิ์ อากาศบริสุทธิ์ก็มีความสุข อยู่กับคนที่รักเราอย่างบริสุทธิ์ก็มีความสุข”“So far ยังไม่มีอะไรที่ทำให้ผมต้องเปลี่ยนเลย มาถึงตอนนี้ไม่มีอะไรให้ต้องเปลี่ยน ไม่เห็นเป็นไร (เข้าคุก) ไม่มีปัญหา วันนี้ถ้าตัดสินใจแล้ว ไม่สนใจอะไรเลย อยู่เมืองนอกมา 17 ปี มันเหมือนติดคุกใหญ่ ๆ เพราะว่าเข้าบ้านตัวเองไม่ได้ เข้าประเทศไม่ได้ แต่ว่ามันโลดแล่น สะดวกสบาย เวลานานหลับเราไม่รู้หรอกว่าอยู่ไหน อยู่โรงแรมคืนละเจ็ดแสนกับโรงแรมจิ๊งหรีด ระหว่างหลับไม่รู้อยู่ไหน รู้แต่ตอนตื่นกับตอนก่อนนอน เพราะงั้นเราหลับให้ได้ ไม่มีปัญหา อะไรจะก็เกิด ไม่มีปัญหา ชีวิตเกิดมาก็แค่นั้นแหละ จะอายุ 74 เดือนกรกฎาคมนี้แล้ว ก็กำไรมากแล้ว ถือว่ากำไรแล้ว อย่าไปคิดอะไรมาก ถ้าเราผ่านพ้นจุดนี้ไป ที่เหลือคือความสุข เพราะอยู่กับหลาน ได้ส่งหลานไปโรงเรียน”ครั้งที่สิบสี่ วันที่ 1 มิถุนายน 2566 นายทักษิณให้สัมภาษณ์ในรายการ “คุยแหลก แดกดึก” ของ นายคชาภา ตันเจริญ ลูกของ “พ่อมดดำ” สุชาติ ตันเจริญ แกนนำพรรคเพื่อไทย ว่า “ยังไงก็ได้ ยังไงก็กลับ พูดไปแล้ว ยืนยันไปแล้ว รอน้องอิ๊งค์บอกว่าวันที่เท่าไหร่ หลาน 7 คนแล้ว ถึงเวลาต้องกลับไปเลี้ยงหลานแล้ว”
ครั้งที่สิบห้า วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 นายทักษิณ วีดิโอคอลเข้ามาในการจัดงานทำบุญวันเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี ว่า “เป็นการทำบุญวันเกิดที่อยู่ต่างประเทศเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะวันที่ 10 อีก 2 3 วันก็จะกลับบ้านละ แล้วจะไปเยี่ยมพี่น้องที่อุบลฯนะ”ครั้งที่สิบหก วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 อุ๊งอิ๊งค์ โพสต์เฟสบุ๊กตอกย้ำ ว่า “26 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันสำคัญของลูกเสมอ แต่ปีนี้ลูกยังไม่อยากเชื่อตัวเอง ในสิ่งที่ลูกกำลังจะพิมพ์ พ่อจะกลับมาแล้ว วันที่ 10 สิงหาคมนี้ ที่สนามบินดอนเมือง”อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 วัย 74 ปี ประกาศกลับมาเลี้ยงหลาน 7 คน ที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขตระกูลชินวัตร ในวันที่ 10 สิงหาคม 2566 พร้อมกับการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำใกล้ได้นายกรัฐมนตรีเข้ามาเต็มที่ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้