“จตุพร” เฉ่งเพื่อไทย ไร้เกียรติ พูดกลับกลอก ปม ปธ.สภา
“จตุพร” เฉ่งเพื่อไทยไร้เกียรติ พูดกลับกลอก ยอมหักหลังเพื่อน ปม ปธ.สภา
วันที่ 29 มิ.ย.2566 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย” ระบุถึงแกนนำพรรคเพื่อไทยพูดกลับไปกลับมาในตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร แสดงถึงการหักหลังพรรคก้าวไกล และเป็นพรรคพูดสับปลับ ไม่น่าเชื่อถือ
นายจตุพร กล่าวถึงการพูดกลับไปกลับมาว่า เมื่อ 18-19 มิ.ย.ที่ผ่านมา แกนนำพรรคเพื่อไทย โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค จู่ๆ ประกาศราวกับนัดแนะกันไว้ว่า ตำแหน่งประธานสภา เป็นของพรรคอันดับหนึ่งคือ พรรคก้าวไกล
อีกทั้ง กล่าวว่า ในวันที่พูดนั้น ถามว่าใครบังคับให้พูด แล้วมาถึง 21 มิ.ย.วันสัมนาพรรคเพื่อไทย ส.ส.ค้าน นายอดิศร เพียงเกษ ต่อต้านไม่ยอมให้สามเณรมาเป็นเจ้าอาวาสวัด ถัดมาล่าสุดวันที่ 27 มิ.ย. แกนนำพรรคเพื่อไทยมาเปลี่ยนคำพูดเอาตำแหน่งประธานสภาตามหลัก 14+1 ให้ได้ ซึ่งนักการเมืองพวกหัวดำหัวขาวเต็มพรรค พูดกลับไปกลับมาเช่นนี้ ควรต้องละอายตัวเองอย่างยิ่ง
“นักการเมืองในฐานะผู้แทนประชาชน วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้พูดอย่าง ไม่มีใครเรียกร้องหาความรับผิดชอบบ้างหรือ? จะอยู่กันแบบนี้หรือ? เราจะหวังว่า คุณจะรักษาสัจจะอะไรกับประชาชน ผ่านมาไม่กี่วันให้ของ (ประธานสภา) เขาแล้ว ก็ไปเอาคืนมาอีก ทำเป็นเด็กเล่นขายหม้อข้าวหม้อแกงลิงหรืออย่างไง”
นายจตุพร กล่าวว่า การกลับหลังหันแบบนี้ พรรคก้าวไกลย่อมรู้เต็มอก อีกทั้งพรรคเพื่อไทยอ่านขาดว่า ไม่อาจร่วมตั้งรัฐบาลกับก้าวไกลได้ ดังนั้น ตำแหน่งของจริงต้องยึดมั่นไว้ก่อนคือ ประธานสภา ตนได้พูดเสมอมาว่า แม้ก้าวไกลยอมหรือไม่ยอม หรือเพื่อไทยไม่เอาหรือเอา แต่ถึงที่สุดแล้วประธานสภาก็เป็นของเพื่อไทยวันยังค่ำ
ส่วนตำแหน่งนายกฯ นายจตุพร กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) บอกไปอังกฤษไปหาหมอ ตอนแรกมีคนบอกไปหาม้าแข่ง แล้วเกิดการสงสัยอาจไปหาแม้ว แต่ตอนนี้ลงท้าย โดยออกมาพูดเองว่า ไปหาหมอ ไม่ได้ไปพบแม้ว
อย่างไรก็ตาม แสดงให้เห็นว่า นักการเมืองเรื่องแค่นี้ยังพูดไม่ตรงกัน ปิดบังซ่อนเร้น แล้วยังบอกไม่เจอทักษิณ ชินวัตร มา 18 ปีแล้ว ก็ว่ากันไป แต่สิ่งสำคัญ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้า พปชร.ประกาศในสถานการณ์ล่าสุด พล.อ.ประวิตร พร้อมเป็นนายกฯ ดูเหมือนหมออังกฤษเพิ่มพลังแรงบันดาลใจกลับมา
อีกทั้ง กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองถึงขณะนี้ ตอกย้ำให้เห็นได้ชัดว่า แม้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่มีอุปสรรคถือหุ้นไอทีวี ถูกต่อต้านการแก้ไข ม.112 หรือขายที่ดินต่ำกว่าราคาประเมิน แต่พรรคก้าวไกลไม่มีโอกาสได้ทั้งนายกฯและประธานสภาอยู่ดี และแล้ววันนี้ พรรคเพื่อไทยฮุบประธานสภา ย่อมสะท้อนว่าเพื่อไทยทิ้งก้าวไกล เพราะเมื่อโหวตได้ประธานสภาแล้ว เลือกนายกฯ พรรคเพื่อไทยไม่เอานายพิธา แน่นอน
“เกมการเมืองเป็นเรื่องอำมหิต วันก่อนบอกจะเอา (ประธานสภา) ต่อมาบอกไม่เอาแล้วยึดหลักการให้พรรคอันดับหนึ่ง แต่มาวันนี้จะเอาอีกและจะเอาให้ได้ มันอะไรของเพื่อไทย ซึ่งการเมืองจะเป็นแบบนี้ อยู่แบบนี้ไม่ได้ การเมืองต้องเป็นหลักเป็นเกณฑ์ ไม่ใช่เปลี่ยนกลับไปมาเรื่อยๆ แบบนี้”
นายจตุพร กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้พูดเพื่อเตือนสติพรรคเพื่อไทยตลอดว่า อย่าไปแย่งชิงเอาประธานสภาจากพรรคอันดับหนึ่ง เพราะไม่มีประเพณีการเมืองปฏิบัติ อีกอย่างในสถานการณ์ขณะนี้บ้านเมืองจะเกิดวิกฤตวุ่นวายคนจะออกมาเต็มท้องถนนแน่ถ้ามีการหักหลังกันแบบนี้
“เมื่อหักหนึ่งก็ต้องมีสอง และหักสามถึงตำแหน่งนายกฯ ส่วนก้าวไกลจะตัดสินใจอย่างไร อาจเดินไปตามน้ำในความต้องการของเพื่อไทย เพราะในอนาคตแล้ว พรรคก้าวไกลรู้ว่าต้องเป็นฝ่ายค้านสถานเดียว”