ธนาธร ช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียงอุตรดิตถ์ ชี้ กระแสดีกว่าอนาคตใหม่
ธนาธร ลุยช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียงตลาดเช้าที่อุตรดิตถ์ เผยพบประชาชนหลายจังหวัด สัมผัสได้กระแสตอบรับดีมาก เจอคนบ่นอุบค้าขายยังไม่ฟื้น ย้ำเชื่อมั่นนโยบายก้าวไกล แก้ปากท้อง-โครงสร้างประเทศระยะยาว
วันที่ 10 มี.ค. 2566 ที่ตลาดคลองโพ (ศิริพัฒนา) อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ร่วมเดินตลาดแจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์แนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และนโยบายของพรรคก้าวไกล ร่วมกับ น.ส.สุภาพิชญ์ สุขศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคก้าวไกล (เขต 1 อ.เมือง) ท่ามกลางการตอบรับอย่างอบอุ่นจากชาวตลาดและประชาชนผู้มาจับจ่ายใช้สอย
ระหว่างการเดินตลาด นายธนาธร ได้สอบถามพ่อค้าแม่ค้าถึงสภาวะเศรษฐกิจปากท้องของชาวตลาด ซึ่งต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแม้จะดีขึ้นมาบ้างแล้วหลังสถานการณ์โควิดผ่านพ้นไป แต่ก็ยังค่อนข้างยากลำบากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด แต่ทั้งนี้ ก็หวังว่าการเลือกตั้งที่จะมาถึงจะนำไปสู่การเปลี่ยนรัฐบาลและนโยบายเศรษฐกิจที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ซึ่งธนาธรก็ได้ให้กำลังใจทุกคน และหวังว่าความยากลำบากในช่วงนี้จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
จากนั้น นายธนาธร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนท้องถิ่น ระบุว่าตั้งแต่ได้กลับมาเดินสายหาเสียงในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกลในรอบนี้ พบว่าเสียงตอบรับจากประชาชนต่อพรรคก้าวไกลดีกว่ารอบที่เป็นพรรคอนาคตใหม่มาก เชื่อว่าเป็นเพราะการที่ประชาชนได้เห็นการทำงานที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์ทั้งในและนอกสภา ทั้งในฐานะพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล และจากการได้มาพบปะผู้สมัครหลายคนในช่วงที่ผ่านมา ตนยิ่งมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อพรรคก้าวไกล ว่าจะทำงานได้อย่างหนักแน่นยิ่งกว่าเดิมในสมัยหน้าและจะไม่ทำให้ประชาชนทุกคนผิดหวังแน่นอน
นายธนาธร ยังกล่าวต่อไป ว่าสิ่งที่ตนได้รับฟังจากการหาเสียงรอบนี้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องความเดือดร้อนจากปัญหาปากท้อง การทำมาหากินที่ยังไม่กลับมาฟื้นตัวดีขึ้นเท่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด จากที่เดินมาหลายตลาด พบว่านี่คือสภาวะเศรษฐกิจที่เป็นจริงที่ถูกสะท้อนมาจากประชาชน ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมอาจไม่สามารถบ่งชี้ให้เห็นได้ครบถ้วน ทั้งนี้ จากการติดตามพรรคก้าวไกล ตนเห็นว่าพรรคมีนโยบายที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจหลายด้าน เช่น รัฐสวัสดิการ การสร้างงานซ่อมประเทศ การแก้ปัญหาที่ดิน การเพิ่มค่าแรง ที่เชื่อว่าสามารถทำไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทลายทุนผูกขาด ที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาปากท้องได้อย่างถาวร
“การเยียวยาเฉพาะหน้าแบบที่ผ่านมาเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อผ่อนคลายภาระความยากลำบากของประชาชน แต่ทุกคนรู้หมดว่าในระยะกลางถึงระยะยาวต้องสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้ทุกคน ถึงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนได้ และผมเห็นว่ามีแต่พรรคก้าวไกลเท่านั้นที่มีความชัดเจน ยืนยันว่าดอกผลของการพัฒนาประเทศที่ผ่านมาตกอยู่ในมือคนกลุ่มน้อยไม่กี่คนอย่างไม่เป็นธรรม ว่าระบบเศรษฐกิจที่ปล่อยให้คนทำงานหนักมาทั้งชีวิตจนแก่เฒ่าก็ยังมีชีวิตที่มั่นคงไม่ได้ เป็นเรื่องที่ผิดปกติ พรรคก้าวไกลเป็นพรรคเดียวที่มีข้อเสนอชัดเจนว่าต้องต่อสู้กับทุนใหญ่ที่ปิดกั้นโอกาสทางเศรษฐกิจของทุกคน และสร้างรัฐสวัสดิการเพื่อดูแลประชาชนไม่ให้ต้องอยู่ตามยถากรรม แต่ต้องสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ตั้งแต่วันแรกถึงวันสุดท้ายของชีวิต” นายธนาธร กล่าว