หาดใหญ่แตก!! “กรณ์” ควง “จูรี” ลงพื้นที่ใจกลางเมือง
ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยนายจูรี นุ่มแก้ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต2 เดินพบปะพ่อค้า แม่ค้า โดยพี่น้องประชาชนให้การต้อนรับอย่างคึกคักมาก โดยนายกรณ์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนาส่งว่าที่ผู้สมัครในจังหวัดสงขลา 4 คน ในเขต 1 เขต 2 เขต 3 และเขต 9
และวันนี้มาเดินหาดใหญ่ อยู่ในพื้นที่ เขต 2 ซึ่งเราส่ง นายจูรี นุ่มแก้ว จากภาพบรรยากาศเราจะเห็นได้ว่า ประชาชนในตัวเมืองหาดใหญ่ตื่นตัว และให้การยอมรับในตัวจูรีเป็นอย่างมาก โดยจูรีเองพร้อมสร้างโอกาสให้คนหาดใหญ่ คนสงขลา และคนใต้ทุกคน จูรีเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้มาทั้งชีวิตจนวันนี้มีชื่อเสียง ก็อยากจะใช้ชื่อเสียงตรงนี้สร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน จึงอาสามาเป็นผู้สมัคร โจทย์สำคัญของวันนี้คือ ทำอย่างไรให้หาดใหญ่พัฒนาต่อไปได้ ทุกอย่างต้องไม่อยู่กับที่ เราต้องมีบทเรียนจากความเจ็บปวดในช่วง 2 ปีที่ผ่านจากวิกฤตโควิด เพื่อไม่ให้ใครสามารถพูดได้ว่าหาดใหญ่ตายแล้ว ดังนั้นจุดเริ่มต้นคือต้องเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก่อน
ด้านนายจูรี ซึ่งเป็นขวัญใจของคนหาดใหญ่ และคนใต้ ว่า อุดมคติของคนใต้แต่ดั้งเดิมคือ เงินซื้อไม่ได้ วันนี้มีคนเอาเงินมาให้มากมาย เราต้องรักษาอุดมคติไว้ให้มั่น ใครเอามาให้เราก็รับไว้ แต่ให้กาพรรคที่ไม่ให้เงิน โดยส่วนตัวไม่เคยคิดที่จะเอาเงินไปซื้อพี่น้องประชาชน ให้เป็นตราบาปไปตลอดชีวิต เพราะเขาซื้อเสียงวันนี้ ส.ส.เขาก็จะไม่สนใจเรา เพราะเขาถือว่าเขาซื้อขาดแล้วตั้งแต่วันที่เข้าคูหา แล้วบ้านเราก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“การเมืองสมัยนี้สู้ด้วยกำลังเงิน ฉันจึงอยากจะสู้ที่สุด ตอนนี้ฉันมีคนติดตามอยู่จำนวนหนึ่ง ก็อยากจะใช้ประโยชน์ตรงนี้ชี้นำสังคม ให้ตระหนักถึงการซื้อสิทธิขายเสียง ห้าหกสิบปีแล้วที่คนนึกถึงการเลือกตั้งก็ต้องนึกถึงการซื้อเสียง ฉันจะรื้อระบบนี้ให้ได้ แม้คนจะเชื่อฉันแค่ 5 คน 10 คน ฉันก็จะทำ เราจะรวมกำลังบริสุทธิ์ เอาชนะให้ได้ เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ ให้ จ.สงขลา ภาคใต้ และประเทศไทย” นายจูรี กล่าว
นายจูรี กล่าวว่า ตอนนี้ มีบางพรรคเก็บบัตรประชาชนกันแล้ว ขอให้ทุกคนรักษาบัตรให้แข็งแรง อย่าให้ใครเอาไปได้ จิตใจพี่น้องต้องมั่นคง นักการเมือง มองพวกเราเป็นปลา เขาจึงเหวี่ยงเบ็ดมา แต่ถ้าจิตใจเด็ดเดี่ยว เราเลือกได้ที่จะกินแค่เหยื่อไม่กินเบ็ด หากเราทำได้ครั้งนี้จะเป็นปรากฎการณ์ว่าพลังบริสุทธิ์อยู่เหนือพวกคนซื้อเสียง พวกเราทำได้ เพื่อไม่ให้ ส.ส. มาประมูลคนบ้านเราด้วยเงินลงทุน 40-50 ล้าน จ่ายชาวบ้านหัวละพันบาท หาร 365 วัน ค่าตัวเราตกวันละ 2.70 บาท และถ้า 4 ปี เราจะเหลือค่าตัวกันแค่วันละ 68 สตางค์เท่านั้น
นายกรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ไม่ว่าสภาพการเมืองในภาคใต้ทุกวันนี้จะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร จากสมัยก่อนที่เงินซื้อไม่ได้ ตอนนี้ชาวบ้านพูดกันหนาหูมากว่ามีระบบการจัดการใต้ดินกันมากเหลือเกิน เรื่องแบบนี้จะหมดไปได้ เราต้องสั่งสอนพรรคการเมืองที่ใช้เงิน ด้วยการเลือกคนรุ่นใหม่ที่มีพลังสร้างสรรค์ หักปากกาเซียน ส่งม้ามืดอย่างจูรีเข้าสภา