‘อนุทิน’ ขู่ ไม่เอากฎหมายกัญชา ผิดสัตยาบันพรรคร่วมรัฐบาล
ประยุทธ์ว่าไง ‘อนุทิน’ ขู่ ไม่เอากฎหมายกัญชา ผิดสัตยาบันพรรคร่วมรัฐบาล
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีคณะรัฐมนตรี ยื้อการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับใหม่ล่าสุด เรื่อง “สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565” เพื่อควบคุมการใช้ช่อดอกของกัญชา ว่า การลงนามในประกาศข้างต้น เป็นการลงนามตามมติของ คณะกรรมการส่งเสริมและควบคุมพืชสมุนไพร ตาม พ.ร.บ. ตามกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้องลงนาม เมื่อคณะกรรมการเห็นชอบ ก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ เมื่อลงนามแล้ว ก็สร้างความชัดเจนในเรื่องของการควบคุมการใช้กัญชา จากนั้น ได้ส่งมาที่สำนักงานเลขาธิการนายกฯ เพื่อประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่องเป็นแบบนี้
นายอนุทิน อธิบายว่า เจตนาของประกาศ ก็เพื่อเอากฎหมายมาควบคุม คนห่วงเรื่องเยาวชน ห้ามขายให้นักเรียน นักศึกษา ต่อมา มีคำถามว่า ทำไมไม่ห้ามขายในสถานศึกษา ก็อย่าลืมว่า ในมหาวิทยาลัย ก็มีการวิจัยกัญชา อาทิ ในคณะแพทย์ เราก็เลย กำหนดไปที่สถานะ ถ้าเป็นนักเรียน นักศึกษา เข้าถึงไม่ได้ เรื่องนี้ มีความละเอียดอ่อน อยากให้ออก พ.ร.บ.เสีย แล้วจะแก้ไขปัญหาได้
“ที่ผ่านมา มีคนบอกว่าเป็นห่วง กังวล โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล แต่จะให้ออกกฎหมาย ก็บอกว่าไม่เอา จะเอากัญชาไปเป็นยาเสพติด มันก็ย้อนแย้งกับนโยบายรัฐบาลแล้ว จะมาบอกว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้ เพราะเรื่องกัญชาเป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทย เราหาเสียงเรื่องนี้ ไว้ตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้ง ตอนฟอร์มรัฐบาล ได้ยอมรับนโยบายของแต่ละพรรค เรายอมรับนโยบายของพรรคท่าน เรายอมรับนโยบายการเกษตรของพรรคท่าน เรายอมรับนโยบายสิ่งแวดล้อมของพรรคท่าน เรายอมรับนโยบายคนละครึ่งของพรรคท่าน เรื่องมารยาท เราก็ยกมือสนับสนุนท่าน โดยเฉพาะตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคภูมิใจไทย ก็ยกมือสนับสนุนให้หัวหน้าพรรค ไปจนถึง รัฐมนตรีทุกคน บางทีพรรคท่านเอง ยังไม่สนับสนุนกันเองเลย แต่เราสนับสนุน เรามีมารบยาท และกาละเทศะ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการกล่าวหาว่านโยบายกัญชาขาดความรอบคอบ นายอนุทิน ตอบว่า พ.ร.บ. กัญชา อยู่ในสภาอยู่แล้ว มันรอให้มีการเดินหน้า เพื่อการควบคุมดูแล และไม่ใช่ว่าเราไม่รอบคอบ เพราะเราก็ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ซึ่งคำว่าไม่รอบคอบ มันไม่รอบคอบอยู่อย่างเดียวคือ การที่พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันจะมาขวางกันเอง
“แต่ทุกวันนี้ ที่บอกว่าห่วงสังคม แต่ไม่ให้ออก พ.ร.บ. แล้วยังจะให้กลับไปเป็นยาเสพติดอีก มันผิดสัตยาบันในการร่วมรัฐบาล”