“อุตตม” ชี้ช่องวิกฤตอาหารโลกเป็นโอกาสส่งออกสินค้าเกษตรไทย
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แนะภาครัฐใช้วิกฤตโลกเผชิญปัญหาขาดแคลนอาหาร เร่งเปิดตลาดสินค้าเกษตรไทย พร้อมทั้งปรับกลไกห่วงโซ่อุตสาหกรรมการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรไทยได้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า สวัสดีครับ วันนี้หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาความมั่นคงทางอาหาร เนื่องจากเกิดสถานการณ์อาหารขาดแคลนและมีราคาแพง ต้นเหตุมาจากสงครามรัสเซีย ยูเครน เพราะทั้งสองประเทศเป็นแหล่งผลิตอาหารสำคัญโดยเฉพาะข้าวสาลี และรัสเซียยังเป็นผู้ส่งออกปุ๋ยรายใหญ่ เมื่อปุ๋ยขาดแคลนก็กระทบต่อปริมาณการผลิตอีกทอดหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นปัญหาจากความเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศโลก ที่กำลังเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงในแหล่งผลิตอาหารทั่วโลก
ผมจึงขอชวนทุกท่านมาร่วมกันคิดต่อว่า เมื่อหลายประเทศทั่วโลกมีปัญหาขาดแคลนอาหาร ขณะที่ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารอันดับ 13 ของโลก มูลค่ากว่า 1.1 ล้านล้านบาทต่อปี ดังนั้นจึงต้องคิดว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อแสวงหาโอกาสในวิกฤตโลกครั้งนี้ ทั้งในระยะสั้นและวางรากฐานให้ไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารโลกได้อย่างแท้จริงในระยะยาว สุดท้ายที่สำคัญสุดก็คือ เกษตรกรผู้ผลิตต้องได้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นนี้ด้วย
สำหรับระยะสั้นผมคิดว่าสิ่งที่ควรทำในทันทีคือ ภาครัฐต้องเร่งช่วยลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร โดยเฉพาะต้นทุนปุ๋ยที่ราคาสูงขึ้นจากปีก่อนถึงเท่าตัว แต่ราคาผลผลิตกลับวิ่งตามไม่ทันต้นทุน ซึ่งหมายความว่าเกษตรกรจะไม่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้เลย ขณะเดียวกันภาครัฐต้องร่วมกับเอกชนผู้ส่งออกใช้โอกาสนี้เปิดตลาดประเทศใหม่ๆ ที่มีความต้องการสินค้าเกษตรทดแทนประเทศที่มีปัญหา เพื่อเพิ่มปริมาณการส่งออกของไทย
ส่วนประเด็นที่ควรทำในระยะกลางและยาว เพื่อให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารของโลกได้อย่างแข็งแกร่งนั้น ผมคิดว่าประเทศไทยต้องทำ 2 เรื่องสำคัญ คือ 1. ยกระดับคุณภาพและปริมาณผลผลิตต่อไร่ 2. ยกระดับสู่การเกษตรสมัยใหม่ เป็นอุตสาหกรรมการเกษตรที่ตอบสนองความต้องการตลาดในโลกปัจจุบัน
ทั้งนี้ประเด็นที่ผมนำเสนอดังกล่าว บางส่วนสอดคล้องกับเวทีเสวนา “สร้างอนาคตเกษตรกรไทยอย่างไรให้ยั่งยืน” ที่คุณกำพล ปัญญาโกเมศ ประธานฝ่ายวิชาการของพรรคสร้างอนาคตไทยจัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งรายละเอียดเสวนามีแง่มุมที่น่าสนใจหลายเรื่อง ผมจึงขอหยิบยกสาระสำคัญบางส่วนที่จะสนับสนุนให้เกษตรกรไทยยั่งยืนได้ มาบอกเล่าต่อดังนี้
1. ปัจจุบันเกษตรมีต้นทุนสูงแต่ราคาผลผลิตต่ำ ดังนั้นรัฐต้องเร่งช่วยลดต้นทุนปัจจัยการผลิตสำคัญ ประกอบด้วย เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และพลังงาน เพื่อเพิ่มกำไรจากการขายผลผลิตให้กับเกษตรกร เช่น สนับสนุนเมล็ดพันธุ์คุณภาพ การส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง รวมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานโซลาร์เซลล์ ในการทำเกษตร เป็นต้น
2. รัฐต้องปรับโครงสร้างการเกษตร พร้อมทั้งสร้างกลไกที่เท่าเทียมและเป็นธรรมในห่วงโซ่อุตสาหกรรมเกษตร เพื่อส่งเสริมการเติบโตของเกษตรกร เช่น การสนับสนุนให้เกษตรกรเข้าถึงการขออนุญาตหนังสือรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ผลิตขึ้น รวมทั้งเพิ่มองค์ความรู้ใหม่ๆโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยยกระดับให้เกษตรกรกลายเป็นผู้ประกอบการ
3. แก้ไขปัญหาเกษตรกรไทยที่สะสมมาหลายสิบปี 3 ด้าน คือ ปัญหาหนี้สิน ปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร ปัญหาไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน เราต้องแก้ปัญหาเล่านี้เพื่อให้เกษตรกรหลุดออกจากกับดักวงจรความยากจน เป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนาสู่ความยั่งยืนในอนาคต
ทั้งนี้ผมเชื่อว่าช่วงวิกฤตอาหารโลกในขณะนี้ หากเราสามารถดำเนินการตามแนวคิดข้างต้นได้อย่างรวดเร็ว ก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสทางการส่งออกสินค้าเกษตร และส่งผลดีต่อเนื่องถึงพี่น้องเกษตรกร ซึ่งพรรคสร้างอนาคตไทยจะนำแนวคิดทั้งหมดนี้ไปประมวลเป็นนโยบายของพรรคต่อไป ท่านใดสนใจเนื้อหาการเสวนาเพิ่มเติม สามารถดูได้จากลิงค์ด้านล่างนี้ ขอบคุณครับ