“บิ๊กตู่ ” กำชับทุกหน่วยงานดูแลคนกลับกรุงฯ หลังหยุดยาว
โฆษกรัฐบาล เผย “นายกฯ” กำชับอำนวยความสะดวก-ความปลอดภัยประชาชนเดินทางกลับเข้า กทม.และพื้นที่เขตเศรษฐกิจ หลังหยุดยาว 28-31 ก.ค.65 ย้ำขอประชาชนเคร่งครัดปฏิบัติตามกฎจราจร ควบคู่มาตรการป้องกันโควิด-19
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามรายงานของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดย ศปถ. รายงานสรุปอุบัติเหตุทางถนนช่วงวันหยุดระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม 2565 (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2565) ผู้เสียชีวิต 18 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ทัศนวิสัยไม่ดี ตัดหน้ากระชั้นชิด ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ จักรยานยนต์ 94.12 รองลงมา คือ รถยนต์นั่ง 5.88% จังหวัดที่ผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ จังหวัดจันทบุรีและนครราชสีมา (จังหวัดละ 2 คน) โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ให้คุมเข้มโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุและมีผู้สูญเสียสูงสุด ให้เข้มงวดบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ลดลงและป้องกันการสูญเสียที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชนได้ทยอยเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพมหานครและจังหวัดเขตเศรษฐกิจ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (30 กรกฎาคม 2565) ทำให้มีปริมาณรถหนาแน่นในเส้นทางหลัก และเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รองรับประชาชนเดินทางกลับจากภูมิลำเนา ย้ำมาตรการ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เพื่อให้ผู้เดินทางได้รับความสะดวก ปลอดภัย ลดปัญหาและอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางของประชาชนให้ได้มากที่สุด ควบคู่กับดำเนินมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง คุมเข้มผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการขับรถเร็วและง่วงหลับใน นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษจากสภาพถนนที่อาจเปียกลื่นและทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน เนื่องจากตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา (ณ 30 กรกฎาคม 2565) ได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย
“นายกรัฐมนตรีย้ำขอให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน หน่วยทหารในพื้นที่ ภาคประชาสังคม เข้ามามีส่วนร่วมลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือน้อยที่สุด พร้อมกับขอให้ประชาชนผู้เดินทางเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เดินทางด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ มีสติ ไม่ประมาท ดื่มไม่ขับ ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทาง และขอให้เคร่งครัดมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด Universal Prevention ตลอดเวลา สังเกตอาการตนเองหลังเดินทางกลับมาแล้ว ควรตรวจ ATK คัดกรองเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ทำงานด้วยความเสียสละ อำนวยความสะดวก สร้างความปลอดภัยให้ประชาชนในการเดินทางสัญจรช่วงหยุดยาวเดือนกรกฎาคม 2565 ทั้งสองช่วง รวมถึงขอบคุณประชาชนที่ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ซึ่งช่วยในการลดอุบัติเหตุ ป้องกันความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินทั้งของตนเองและผู้อื่นด้วย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว