ปลุกผี สปก. ‘ก้าวไกล’ แฉ มท. ออกโฉนด เอื้อเครือข่าย ‘ปชป.’

ก้าวไกล ปูด ‘นิพนธ์’ ใช้โมเดล สปก. 4-01 เวอร์ชั่นอัปเกรด ออกโฉนดที่ดินภาคใต้เอื้อเครือข่ายพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 65 ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นวันที่ 2 นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน” นายนิพนธ์ อ้างว่าจะมาช่วยแก้ปัญหาความล่าช้าในการออกโฉนดและกระจายการถือครองที่ดินให้ประชาชนและเกษตรกร กลายเป็นโครงการที่ออกโฉนดที่ดินผืนงาม เพื่อให้นายทุนเครือข่ายของตัวเองแสวงหาประโยชน์ คล้ายกับนโยบาย “ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม” หรือ “สปก.4-01 ในปี 2537
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เคยเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการออกโฉนดที่เกาะนุ้ยนอก จังหวัดกระบี่ จนกลายเป็นข่าวดัง มีแรงกดดันให้สอบสวน จนต้องเพิกถอนโฉนดที่ดิน แต่ นายนิพนธ์ กลับไม่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ได้เพียงแต่ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยกรณีที่เกาะนุ้ยนอกที่เดียว ไม่ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินทั้งหมด เพื่อระงับยับยั้งไม่ให้เกิดกรณีคล้ายกันในที่อื่นๆ

เมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา มีการออกโฉนดที่ดินเกาะนุ้ยนอก เกาะกลางทะเลเล็กๆ ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะที่ชาวบ้านใช้หลบฝนหรือแวะแกะอวนกัน ไม่มีการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างการเพาะปลูก จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ในการออกโฉนด ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ.2537) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ข้อ 14 (3) แต่ผู้ใหญ่บ้านหมู่อื่นที่ไม่อยู่ในพื้นที่ ได้มาลงนามรับรองรังวัดร่วมกับ นายชัยยุทธ ไชยทองรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดกระบี่-พังงา โดยหนึ่งในผู้ที่ได้โฉนดไปคือผู้อำนวยการ ใน DSI ที่ดูแลด้านแผนที่โดยเฉพาะ ที่สร้างหลักฐานเท็จ สร้างร่องรอยการใช้ประโยชน์ปลอมๆ และมีการใช้หลักฐานปลอมเป็นเอกสาร ส.ค. 1 ในการขอโฉนด
ทั้งที่มีข่าวดัง และพรรคก้าวไกลก็อภิปรายเรื่องเกาะนุ้ยนอกไปเมื่อกุมภาพันธ์ 2565 นายชัยยุทธ คนเดียวกันนี้ก็ยังเดินหน้าออกโฉนดให้นายทุนต่อได้อีก ในเดือนมีนาคม 2565 มีการออกโฉนดที่ดินผืนใหญ่ที่เกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงาให้บริษัทเดียว ถึง 20 แปลง ในคราวเดียว
เมื่อสิงหาคม 2564 นายชัยยุทธ ยังได้ออกโฉนดในพื้นที่หาดนาใต้รวม 27 ฉบับภายในวันเดียว ทั้งที่ไม่มีการแนบหลักฐานการใช้ประโยชน์ที่ดิน อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวยังเคยมีคดีความพื้นที่บุกรุก จนศาลตัดสินชัดเจนแล้วในปี 2558 ว่านี่เป็นพื้นที่ป่าสงวน มีการติดป้ายประกาศชัดเจน รับรู้โดยทั่วกันว่าเป็นการถือครองที่ผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ป่าสงวน และเมื่อมีผู้คัดค้านการออกโฉนดของ ชัยยุทธ โดยแจ้งไปที่กรมที่ดิน และกรมป่าไม้ก็ยืนยันว่าที่ดินเหล่านี้อยู่ในเขตป่าสงวนจริง
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวต่อว่า เมื่อตรวจสอบรายชื่อเจ้าของที่ดิน 27 แปลงที่หาดนาใต้แล้ว พบว่ามีทั้งนายทุนธุรกิจท่องเที่ยว ก่อสร้าง และพัฒนาที่ดิน หลายคนก็ไม่ใช่คนพื้นที่พังงาด้วย และยังมีที่ดินถึง 4 แปลงที่เป็นของนายทุนนามสกุลเดียวกัน และ ประเสริฐพงษ์ ยังได้เปิดคลิปเสียงแฉว่า ในจำนวนนี้มีนอมินีถือที่ดินแทน อดีตนายก อบจ. พังงา ที่อาจเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พังงา พรรคประชาธิปัตย์ สมัยหน้า
อีกหนึ่งคนที่มีชื่อถือครองที่ดินหาดนาใต้ คือคนนามสกุล กิตติพรหมวงศ์ นามสกุลเดียวกับ สจ. อำเภอท้ายเหมือง ซึ่งลงเลือกตั้งทีม อบจ. เดียวกับ อดีตนายก อบจ.พังงา นอกจากนี้ เจ้าของที่ดินแปลงนี้ยังเป็นน้องสาวของนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อดีตอัยการสูงสุด ที่สั่งไม่ฟ้องคดี ‘บอส อยู่วิทยา’ ด้วย
นายประเสริฐพงษ์ อภิปรายต่อว่า ในช่วงที่มีการออกโฉนดนี้ให้กับน้องสาวของนายวงศ์สกุล นั้น ป.ป.ช. อยากจะฟ้องนายนิพนธ์ จากกรณีละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่าซื้อรถอเนกประสงค์ 2 คัน 50 ล้านบาท สมัยที่เป็นนายก อบจ. สงขลา ซึ่งทำให้ อบจ. ต้องจ่ายดอกเบี้ยอีก 30 ล้านบาท แต่ อสส. กลับแจ้งว่ามีข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดี จนกระบวนยืดออกไป ถ่วงเวลาออกไปจนครบกำหนดเกษียณตำแหน่งของนายวงศ์สกุล พอดี ช่วยรั้งให้นายนิพนธ์ ยังนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีต่อได้ กว่ากระบวนการจะไปถึงศาล นิพนธ์ก็อาจจะอยู่ในตำแหน่งครบวาระ
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า โครงการเดินสำรวจรังวัดที่ดินนี้เป็นเพียงการปรับปรุงแผนทุจริตให้แนบเนียนขึ้นจาก โครงการ สปก.4-01 เพราะโครงการนี้แจกโฉนดโดยไม่ต้องพิสูจน์ว่าเป็นเกษตรกรไหม และตัดตอนกระบวนการไม่ให้รัฐมนตรีต้องมาเกี่ยวข้องเหมือนคราว สปก. แต่ให้จบที่ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจ เมื่อเกิดเรื่อง รัฐมนตรีก็เพียงปิดตาข้างเดียว สั่งสอบเป็นรายๆ ไป
“น่าเศร้าที่จนถึงวันนี้ ไม่มีคำขอโทษใดๆ กับนโยบาย สปก. ตอนนั้นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง จนวันนี้มาเจอการทุจริตอีกแบบ จากรัฐมนตรีของพรรคเดิม แต่คราวนี้มาอย่างแนบเนียนขึ้น” นายประเสริฐพงษ์ กล่าว