“เพื่อไทย” ชี้ต่างชาติเมินไทย
“เพื่อไทย” ชี้ ต่างชาติขาดความมั่นใจ ไม่ลงทุนในไทยยุค“ประยุทธ์” จี้ ตื่นจากฝันหลังอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าย้ายฐานลงทุนไป อินโดนีเซีย แนะ ศึกษาเรื่อง EV ให้รู้จริงก่อนพูด
นายวิกรม เตชะธีราวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เชียงราย และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงยุทธศาสตร์ 3 แกน โดยมุ่งหวังให้ประเทศไทยเป็นฐานในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย แนวคิดดังกล่าว ดูเป็นเพียงการขายฝันในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เพราะ พลเอก ประยุทธ์ไม่มีนโยบายหรือมาตรการส่งเสริมการผลิตและการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร อีกทั้งการเตรียมความพร้อมรองรับ ทั้งเรื่อง สถานีอัดประจุ หากมีการเดินทางระยะยาวหรือข้ามจังหวัดนั้น ควรจะต้องมีการวางแผนหาตำแหน่งที่ตั้งของสถานีอัดประจุ เนื่องจากปัจจุบันสถานีอัดประจุในประเทศยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ นอกจากนี้การที่ค่าไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นที่จะสูงถึงหน่วยละ 5 บาทอาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่รถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้รับความนิยมมากนักในประเทศไทย
นอกจากนี้ รัฐบาลจะไม่มีการส่งเสริมการผลิตแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพสูงแล้ว ยังไม่มีแนวนโยบายในการจัดการขยะจากแบตเตอรี่ เนื่องจากแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ไฟฟ้าปัจจุบันมีอายุการใช้งานที่จำกัด การเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่การกำจัดแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพไปแล้วนั้น ในปัจจุบันยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการกำจัดแบตเตอรี่ที่เป็นขยะเหล่านี้ ซึ่งเป็นความท้าทายที่จะต้องมีการดำเนินการต่อไป ทั้งนี้หากไม่มีแนวทางหรือแผนงานที่ชัดเจนจะเป็นแหล่งขยะพิษส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชนได้
ทั้งนี้ที่ผ่านมา คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยได้ศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ เรื่องอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) มา 3-4 ปีแล้ว และได้แนะนำรัฐบาลให้เตรียมความพร้อมในการร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต
นายวิกรม กล่าวด้วยว่า น่าประหลาดใจว่า รถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่พลเอกประยุทธ์เพิ่งจะมานึกได้ รัฐบาลทิ้งโอกาสการลงทุนไปแล้ว ล่าสุดอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ย้ายฐานการผลิตไปลงทุนในประเทศอินโดนิเซียเป็นจำนวนมากแล้ว ประเทศไทยต้องหันมาดูว่าเรามีจุดแข็งอะไรถึงจะดึงดูดเขามาได้ ในการประชุมระหว่างสหรัฐและอาเซียน ประธานาธิบดีวิโดโด ของอินโดนีเซียได้นัดหารือกับนายอีลอน มัสก์ ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้ก่อตั้งบริษัทเทสลา เพื่อจะผลิตแบตเตอรี่ในอินโดนีเซีย
“จนถึงเวลานี้ เชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ไม่ได้เข้าใจเรื่องรถ EV จริง แต่พูดตามบทที่มีคนเขียนให้ท่าน ทำให้ท่านไม่รู้ว่าหัวใจสำคัญของ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า คือ การผลิตแบตเตอรี่และไมโครชิพในประเทศ อีกทั้งต้องเข้าใจว่าอนาคตของรถ EV จะเป็นระบบ รถยนต์ไร้คนขับ และใข้ระบบควบคุมการเดินรถเอง ซึ่งรัฐบาลในอนาคตต้องเตรียมตัวให้พร้อมและรองรับเรื่องดังกล่าว ซึ่งคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยได้บอกไว้นานแล้ว
อยากเตือนไปยัง พลเอกประยุทธ์ว่า ตื่นจากฝันได้แล้ว อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าปัจจุบันขาดแคลนแบตเตอรี่และไมโครชิพ พลเอกประยุทธ์ไม่น่าจะเข้าใจ ทั้งนี้นักลงทุนมองว่าประเทศไทยไม่พร้อมในการพัฒนาอุตสาหกรรม เพราะผู้นำประเทศไร้วิสัยทัศน์ และนโยบายที่ไม่เอื้อต่อการลงทุน ที่ พลเอกประยุทธ์ คืออุปสรรคสำคัญในการลงทุน เชื่อว่านักลงทุนรอเปลี่ยนรัฐบาลจึงจะพิจารณาการลงทุนอีกครั้ง น่าจะมีอนาคตกว่า ” นายวิกรม กล่าว