‘เพื่อไทย’ จี้ ‘ประยุทธ์’ เร่งแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวโดยเร็ว ชี้ ถ้าเชื่อที่แนะนำ นักท่องเที่ยวเข้ามากกว่านี้
แนะ 3 แนวทางปฏิบัติที่ควรพิจารณา
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ รองเลขาธิการและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการยกเลิกระบบ Test&Go ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 พบว่ามีผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยรวม 20,606 คน และคาดการณ์ว่าในสัปดาห์แรกจะมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศประมาณ 1.3 แสนคน นับว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับภาคธุรกิจการท่องเที่ยวไทยที่จะได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้งหลังจากที่รัฐบาลปิดประเทศมาแสนนาน
อย่างไรก็ตามการเปิดประเทศโดยยกเลิกมาตรการ Test&Go อาจจะช้าไปในเวลานี้ เนื่องจากรัฐบาลใช้เวลาคิดแผนการดำเนินการต่างๆค่อนข้างช้าและอืดอาด อีกทั้งปัจจัยภายนอกอย่าง ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างรัสเซียและยูเครน ภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก ตลาดใหญ่อย่างจีนที่ยังไม่เปิดให้พลเมืองของตนเดินทางไปต่างประเทศและการระบาดของโควิด -19 ของหลายประเทศต้นทาง ยิ่งเป็นอุปสรรคในการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย หากรัฐบาลเชื่อและฟังตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้เสนอและได้แนะนำไว้แต่แรกมูลค่าการท่องเที่ยวจะสูงถึง 3 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ทางพรรคเพื่อไทยยังมีข้อกังวลถึงการเปิดประเทศดังกล่าว โดยแบ่งเป็น 3 ข้อกังวลดังนี้ (1) การที่นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้รับวัคซีนครบแล้วและไม่จำเป็นต้องตรวจ ATK เป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการระบาดอีกครั้งในประเทศ รัฐบาลควรทบทวนมาตรการนี้อีกครั้ง (2) ประกันสุขภาพคุ้มครองสุขภาพโควิด – 19 หรือจดหมายรับประกันไม่ควรระบุขั้นต่ำของมูลค่าประกันเพราะจะสร้างความยุ่งยากในการเข้าประเทศและประกันดังกล่าวควรครอบคลุมไปถึงการคุ้มครองอื่นๆด้วย (3) ระบบปฎิบัติการหน้างานสำหรับการคัดแยกนักท่องเที่ยวและการต้อนรับนักท่องเที่ยวยังล่าช้า ยังมีความไม่พร้อมในการดำเนินการ เกิดความแออัดในพื้นที่คัดแยก การจัดการที่ยังมีความสับสนและซับซ้อน ซึ่งเป็นการทำลายความมั่นใจของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทย
จากการที่พรรคเพื่อไทยได้เสนอให้นายกรัฐมนตรียกเลิก พ.ร.ก ฉุกเฉิน ออกซอฟท์โลน ปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ย ลดเงินต้น ยืดการชำระหนี้ ผ่อนผันลดภาษีที่ดินรวมถึงสิ่งปลูกสร้างนี้ออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปี ยกเลิกการเก็บค่าเหยียบแผ่นดินคนละ 300 บาท และการทำการตลาดเชิงรุกเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศแล้ว จึงอยากขอเสนอ ประตูแห่งทางออกทั้ง 3 ข้อกังวลดังนี้
(1) “ATK pass”ใช้เพียง ATK ในการตรวจเข้าประเทศเพราะใช้ระยะเวลาไม่นาน ค่าใช้จ่ายน้อย เพิ่มความสะดวกสบายในการคัดกรอก โดยใช้ผล ATK แทนผลรับรองแบบ RT-PCR ทั้งผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้ไม่ครบโดส
(2) “Resilient Insurance” นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องมีประกันภัยวงเงินขั้นต่ำและควรเสนอทางเลือกประกันภัยหลายรูปแบบให้กับนักท่องเที่ยว
(3) IOT gateway ควรมีระบบหรือเทคโนโลยีการคัดกรอกนักท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ ดำเนินการให้ครบจบในที่เดียวและลดระยะเวลารอคอยขณะคัดกรอง เพื่อสร้างความมั่นใจและประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว
“คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเชื่อว่านโยบายและมาตรการที่เสนอไปจะช่วยทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในเรื่องของการท่องเที่ยวอีกครั้ง เราสนับสนุนนโยบายการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี การมีส่วนร่วมของประชาชนไปจนถึงการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาคงไม่เข้าใจในสิ่งนี้ เพราะตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา การบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์เปรียบเสมือนความมืดที่ครอบงำธุรกิจการท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน ทางคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเห็นว่านายกรัฐมนตรีควรใช้เวลาในการคิดและทบทวนว่าตนเองเหมาะสมหรือไม่ในการบริหารประเทศ และอนาคตของประเทศชาติจะเป็นอย่างไรหากท่านยังยื้อและยังดื้อบริหารประเทศในลักษณะแบบนี้?”