สิระ พร้อมปั้นเมีย เป็นองค์รักษ์พิทักษ์ “บิ๊กตู่”
“สิระ-สรัลรัศมิ์ “ควงคู่ลุยหาเสียง ตั้งเป้า ส่งเมียสานต่องานองค์รักษ์พิทักษ์”บิ๊กตู่”ในสภาฯ
วันที่ 9 ม.ค. นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ช่วยนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ภรรยา ผู้สมัคร ส.ส.หลักสี่-จตุจักร เบอร์ 7 พรรคพลังประชารัฐ หาเสียง ในพื้นที่ ชุมชนชายคลองลาดพร้าว ,ชุมชนวังหิน,ชุมชนชายคลองเสนานิคม,ชุมชนหลังกรมวิทย์,ชุมชนพหลโยธิน 46 และชุมชนวัดบางบัว
โดยนางสรัลรัศมิ์ กล่าวว่า ช่วงที่หาเสียงมาตนได้รับกำลังใจจากประชาชนจำนวนมาก ตรงนี้ก็ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุน เวลาที่นายสิระไม่ได้มาลงพื้นที่หาเสียงด้วย ก็จะมีชาวบ้านสอบถามด้วยความห่วงใย และคิดถึงการทำหน้าที่ของ ส.ส.สิระ ในส่วนถ้าตนได้รับเลือกเข้าไปทำหน้าที่แทนประชาชนก็คงจะเป็นเรื่องปัญหาปากท้อง เพราะจากสถานการณ์โควิคที่ระบาดมากว่า 2 ปี ทำให้ระบบเศรษฐกิจทั่วโลก เผชิญกับวิกฤต รวมทั้งประเทศไทย ส่งผลให้มีคนตกงานจำนวนมาก ประชาชนรัดเข็มขัด ลดการใช้จ่ายลง เป็นสาเหตุให้การทำมาหากินยากขึ้น คงไม่ใช่เฉพาะชาวหลักสี่-จตุจักร เพราะฉะนั้น เมื่อเราได้รับความไว้วางใจให้เข้ามาทำงาน โดยรับเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชน ตรงนี้เราก็จะต้องตอบแทนด้วยการดูแลประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ด้านนายสิระ กล่าวว่า นางสรัลรัศมิ์จะเข้าไปปฎิบัติหน้าที่แทนตนในสภาที่เป็นองครักษ์พิทักษ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และจะทำหน้าที่แทนตนได้อย่างแน่นอน
ในส่วนของการทุจริตการเลือกตั้งพื้นที่หลักสี่นั้น นายสิระ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ถึงคืนหมาหอน คงยังไม่มีเรื่องนี้ แต่ที่เห็นน่าจะเป็นการเสียงที่โจมตี ใส่ร้าย ป้ายสี ว่า พรรคนั้นรัก ไม่รัก สถาบัน เรื่องพวกนี้น่าจะผิด กฎหมายเลือกตั้งอยู่แล้ว เพราะสถาบันไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเลย ที่ผ่านมาตนและพรรคพลังประชารัฐ มีจุดยืนปกป้องสถาบันมาโดยตลอด การทำผิดกฎหมายตรงนี้ ตนยืนยันว่าจะรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องดำเนินคดีแน่นอน
ทั้งนี้นายสิระ เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่ภาคใต้เสร็จสิ้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ ส.ส.ทุกคนจะลงมาช่วยหาเสียงในพื้นที่หลักสี่
เมื่อถามถึงการเลือกตั้งภาคใต้ที่มีความรุนแรง นายสิระ กล่าวว่า ต้องให้เจ้าหน้าที่สืบสวนไปก่อน เพราะยังไม่แน่ใจว่า การยิงกันที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งหรือไม่