พรรคเป็นธรรม แนะ ใช้ 200 ล.ซื้อวัคซีน ดีกว่าจ้าง ‘ลิซ่า’ แต่ไร้ความพร้อม
ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม แนะ เอาเงิน 200 ล้านไปซื้อวัคซีน ดีกว่าจ้าง “ลิซ่า” โปรโมทประเทศแต่ไร้ความพร้อม
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ดร.ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมดึง ลิซ่า blackpink โปรโมทการท่องเที่ยวไทยว่า รัฐบาลควรเลิกฝันว่าจะโปรโมทการท่องเที่ยวเพียงชั่วข้ามคืน เอา 200 ล้านบาท จ้าง “ลิซ่า” ไปซื้อวัคซีน มาฉีดให้ประชาชนเพิ่มดีกว่า
ดร.ปิติพงศ์ ระบุ เห็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ข่าวว่า ททท. ได้ร่วมกับเอกชน เตรียมจ้างนักร้องดัง “ลิซ่า แบล็กพิงก์” มาร่วมงานภูเก็ต เวิลด์คลาสเดสติเนชั่น เคาท์ดาวน์ รับปี 2565 และจะว่าจ้าง “แอนเดรีย โบเซลลี” นักร้องโอเปร่าชื่อดัง ด้วยงบประมาณกว่า 200 ล้านบาทแล้ว อดแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ไม่ได้
ดร.ปิติพงศ์ กล่าวว่า เรื่องการโปรโมท จูงใจเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย เป็นเรื่องที่ควรทำ เพราะการท่องเที่ยวคือหนึ่งในเส้นเลือดหลัก ที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจไทยตลอดมา แต่การที่จะทำให้การท่องเที่ยว กลับมาสร้างรายได้ ไม่ใช่เพียงแค่ทุ่มเทงบดึงคนดังมาโปรโมท แล้วจะพลิกฟื้นการท่องเที่ยวได้ชั่วข้ามคืน
“รัฐควรต้องบริหารจัดการการท่องเที่ยวแบบทั้งระบบ ครบทั้งวงจร และควรเริ่มตั้งแต่ทำให้คนไทยกล้าที่จะเที่ยวไทยเสียก่อน ประเทศไทยมักจะใช้การขายวัฒนธรรมไทย เป็นเรื่องที่กระทำได้ และได้กระทำมาอย่างต่อเนื่องยาวนานอยู่แล้ว แต่ถ้าเรายอมรับความจริง เราก็ต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย มาเที่ยวประเทศไทยเพราะประเทศไทยนั้น เป็นประเทศที่มีกิจกรรมตอบสนองนักท่องเที่ยวได้ตลอด 24 ชั่วโมง จะกิน จะเที่ยวอะไร ก็ได้ตลอดเวลาใช่หรือไม่”
หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าวว่ อยากถามรัฐบาลว่า แล้ววันนี้มีอะไรที่แสดงว่า ประเทศไทยมีศักยภาพหรือความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในเมื่อคนในชาติเอง ก็ยังไม่พร้อมที่จะเที่ยว หรือถ้าอยากเที่ยวก็ยังไม่รู้ว่าจะเที่ยวอะไรได้บ้างแล้วรู้สึกปลอดภัย
“ถามว่าวันนี้คนไทยฉีดวัคซีนไปแล้วกี่% ถามว่ารัฐบาลได้ส่งเสริมธุรกิจการค้าให้เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวได้จริงหรือ ในเมื่อประเทศยังมีการกำหนดเวลา เคอร์ฟิว และยังใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกมาเหมือนจะมีไว้คุมม็อบ มากกว่าคุมโรคระบาด อีกทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีผลถึงประกันภัยที่ไม่สามารถคุ้มครองนักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อเกิดปัญหาได้ นักท่องเที่ยวเขาอยากเข้ามาติดเวลาเคอร์ฟิว และอยู่และอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในประเทศไทยอย่างนั้นหรือ”
เขา ระบุว่า ถ้ารัฐบาลไม่ได้มีความพร้อม แต่ต้องการทำเพื่อแก้ปัญหาทางการเมืองหรือสร้างภาพเท่านั้น เงิน 200 ล้านบาท ที่จะจ้างซุปตาร์ระดับโลกมาโปรโมทการท่องเที่ยวไทยชั่วข้ามคืน ควรนำไปจัดหาวัคซีนดีๆมาให้กับประชาชน หรือเข้าไปช่วยประชาชนที่ประสบปัญหาจากอุทกภัย น่าจะได้ประโยชน์มากกว่า อย่าให้คำหวานของรัฐบาลประกาศจะเปิดประเทศ กลายเป็นแค่ผายลมออกจากปาก อย่าเพียงสร้างภาพ ให้ความสุขปลอมๆ กับประชาชนไปวันๆ