เพื่อไทย เปิดพิรุธ ส่วนต่าง ‘ชิโนแวค’ 3.6 พันล้าน
อภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรก พรรคเพื่อไทย จับพิรุธส่วนต่าง ‘ชิโนแวค’ 3.6 พันล้าน
เวลา 09.50 น. วันที่ 31 ส.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 6 ราย ประกอบด้วย
1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
2.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข
3.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน
4.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม
5.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์
6.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน เปิดการอภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นบุคคลที่ไร้ภูมิปัญญา ไร้องค์ความรู้ ไร้จิตสำนึกรับผิดชอบ ไร้คุณธรรมจริยธรรมและไร้ความสามารถที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาล ผู้นำประเทศ ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินเกิดความล้มเหลว ผิดพลาดบกพร่องเสียหายอย่างร้ายแรงทุกด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ทั้งในภาวะปกติและในภาวะวิกฤติ โดยเฉพาะในยามที่บ้านเมืองต้องประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบันกว่า 19 เดือนเศษ พล.อ.ประยุทธ์ได้รวมศูนย์อำนาจ รวบอำนาจและมีอำนาจตามกฎหมายแบบเบ็ดเสร็จทั้งในฐานะนายกรัฐมนตรี ผู้กำกับการปฏิบัติงานตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ประธานกรรมการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ผอ.ศบค. ประธานศูนย์บริหารสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ (ศบศ.) และ ผอ.ศบค.กทม. อีกทั้งยังได้รวบอำนาจตามกฎหมายต่างๆ ถึง 40 ฉบับ
ดังนั้น หากปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ บริหารราชการแผ่นดินต่อไปจะทำให้ประชาชนติดเชื้อและเสียชีวิตมากยิ่งขึ้นจนไม่สามารถที่จะหาสถานที่ฌาปนกิจได้ทันและเพียงพอ และไม่มีหนทางที่จะหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ ประชาชนจะต้องทนทุกข์ทรมาน ทั้งจากโรคและการดำรงชีวิต บ้านเมืองจะไร้ซึ่งความสงบสุขร่มเย็น อันจะนำมาซึ่งความหายนะ ของประเทศชาติอย่างแท้จริงตามที่มีการกล่าวกันว่า “ผู้นำโง่ เราจะตายกันหมด” เพราะคนโง่ คือภัยอันตรายร้ายแรงเมื่อได้กลายเป็นผู้มีอำนาจ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เปิดเอกสารการจัดซื้อวัคซีนชิโนแวค ระบุว่า ได้รับเอกสารจากข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ที่ทนการกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์และนายอนุทินไม่ได้ โดยการจัดซื้อวัคซีนชิโนแวคทั้งหมด 18 ครั้ง ครั้งที่ 1 จำนวน 200,000 โดส ประเทศไทยได้รับเพียง 192,000 โดส ราคาโดสละ 17 เหรียญ ซึ่งมีส่วนต่าง 2 เหรียญต่อโดส โดยหลังจากนั้นชิโนแวคได้ลดราคาลงอย่างต่อเนื่อง
นายประเสริฐ กล่าวว่า ในล็อกแรก ชิโนแวคขายวัคซีนให้ประเทศไทย โดสละ 17 เหรียญ แต่ต่อมาได้ลดราคาลงอย่างต่อเนื่อง เช่น 15 เหรียญ , 14 เหรียญ , 9.5 เหรียญ และสุดท้ายเหลืออยู่ที่ 9 เหรียญ แต่ราคาที่ ครม.อนุมัติในการจัดซื้อยังอยู่ที่ 17 เหรียญต่อโดสไม่เปลี่ยนแปลง จึงมองว่าได้ที่เหลือนั้น เป็นส่วนต่าง
นายประเสริฐ กล่าวว่า กล่าวว่า ทั้งนี้เมื่อรวมส่วนต่างทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 2,098,529,920 บาท โดยคณะรัฐมนตรีอนุมัติ งบประมาณ 10,846,680,000 บาท ขณะที่ราคาอ้างอิงอยู่ที่ 8,740,150,000 บาท
และล่าสุด ครม.อนุมัติงบประมาณเพื่อจัดซื้อวัคซีนชิโนแวคเพิ่มอีก 10.9 ล้านโดส มีส่วนต่างอยู่ที่ 1,603,280,000 บาท โดยเป็นราคาที่ ครม. อนุมัติ 5,562,400,000 บาท แต่ราคาจริงอยู่ที่ 3,959,120,000 บาท จึงเป็นที่สงสัยว่าทำไมไม่อนุมัติงบประมาณตามราคาจริง ซึ่งถือเป็นการค้าความตาย และเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีและอนุทินต้องตอบ ถ้าไม่ตอบ ถือว่าตั้งใจโกง