ครม.อนุมัติ 9 พันล้าน ซื้อ Pfizer 20 ล้านโดส แจงซื้อชิโนแวค 12 ล้านโดส
ครม. อนุมัติ 9,372 ล้านบาท จัดซื้อวัคซีน Pfizer จำนวน 20 ล้านโดส แจงซื้อชิโนแวค 12 ล้านโดส เพื่อเอามาไขว้
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน 20,001,150 โดส (Pfizer) กรอบวงเงินจำนวน 9,372.7645 ล้านบาท แบ่งเป็นการจัดหาวัคซีน 8,439.1131 ล้านบาท และการบริหารจัดการ 933.6514 ล้านบาท ช่วงระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ ส.ค.- ธ.ค. เพื่อจัดหาวัคซีนโควิด-19 สำหรับสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชน โดยกลุ่มเป้าหมายสามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
นายอนุชา เปิดเผยว่า โครงการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติม (Pfizer) จำนวน 20,001,150 โดส ของกรมควบคุมโรค ตามนโยบายรัฐบาลที่จะจัดหาวัคซีนให้แก่ประชาชน 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2564 สำหรับสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ประกอบกับ ขณะนี้มีผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 ที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่หลากหลาย รัฐบาลจึงเห็นควรให้มีจัดหาวัคซีนที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันให้สามารถครอบคลุมการกลายพันธุ์ของไวรัส โควิด-19 ที่มีอยู่ทั่วโลกทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แก่คนไทยได้อย่างแท้จริง ลดอัตราการป่วย/การเสียชีวิต และลดค่าใช้จ่ายภาครัฐในการดูแลรักษาผู้ป่วยจากโรค COVID-19 รวมทั้งลดผลกระทบ/พื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคมให้กลับสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว
นายอนุชา ชี้แจงกรณีรัฐบาลเตรียมสั่งซื้อวัคซีนชิโนแวคเพิ่ม 12 ล้านโดส ว่า องค์การอนามัยโลก(WHO) ได้อนุมัติให้มีการฉีดวัคซีนแบบไขว้ชนิด ทางประเทศไทยก็เริ่มฉีดวัคซีนแบบไขว้ เพราะพบว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนชิโนแวค 2 เข็ม จะมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำกว่าการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าทั้ง 2 เข็ม
“แต่ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนชิโนแวค เข็มที่ 1 แล้วไขว้ด้วยการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 จะทำให้ภูมิคุ้มกันสูงกว่าการฉีดด้วยชิโนแวค 2 เข็ม ถึง 4 เท่า“